
บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประกาศผลประกอบการประจำปี 2567 เพิ่มขึ้น 50 % โดยมีรายได้รวม 1,991 ล้านบาท ตอกย้ำความสำเร็จ ซึ่งมาจากความเชื่อมั่นของลูกค้า โดย CMC ขอให้ลูกค้าและผู้ถือหุ้นทุกท่านมั่นใจได้ว่า บริษัทจะสามารถก้าวผ่านความท้าทายต่าง ๆ ไปได้ด้วยคุณภาพและการบริการ
นายแพทย์ วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) CMC เปิดเผยถึงผลประกอบการในครั้งนี้ว่า “สำหรับรายได้รวมปี 2567 ของกลุ่มบริษัทแบ่งออกเป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 1,659.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.3 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ซึ่งมาจาก โครงการไซบิค รัชดา 32 ทำรายได้ 604 ล้านบาท โครงการชาโตว์ อินทาวน์ รัชโยธิน ทำรายได้ 234 ล้านบาท โครงการซีรอคโค บางนา 36 ทำรายได้ 264 ล้านบาท และโครงการเดอะ เคลฟ ริเวอร์ไลน์ เจ้าพระยา – พระนครเหนือ ทำรายได้ 193 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องในปี 2568 และรายได้จากกลุ่มธุรกิจอื่น เช่น กลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง การให้บริการ และ Wellness”
ในปี 2567 บริษัทสามารถทำกำไรขั้นต้นเท่ากับ 535.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 257.4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 92.5 % จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 นอกจากนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC มียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) รวมมูลค่าประมาณ 2,252.9 ล้านบาท
สำหรับปี 2568CMCมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ จำนวน 3 โครงการ รวมมูลค่า 4,043 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการเดอะ คิวเว่ เซ็นทรัลพาร์ค (นวมินทร์ - รามอินทรา) คอนโดHigh Riseจำนวน 662 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,700 ล้านบาท 2.โครงกาชาโตว์ อินทาวน์ แอท อี18สเตชั่นคอนโดLow Riseจำนวน 173 ยูนิต มูลค่าโครงการ 368 ล้านบาท และ 3.โครงการมนตรา สี่พระยาซึ่งเป็นโครงการLeaseholdโครงการแรกของCMCจำนวน 179 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,975 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม แม้แนวโน้มของตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังคงมีความท้าทายจากหลากหลายปัจจัย
บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC วางเป้าหมายและแผนธุรกิจปี 2568 มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในระดับสากล ควบคู่ไปพร้อมกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ในปี 2568 บริษัทยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจ Wellness เนื่องจากมีการเติบโตที่ดีมาก ซึ่งบริษัทมีความตั้งใจขยายและเพิ่มสัดส่วนการลงทุน Recurring Income โดยขณะนี้ยังอยู่ในช่วงของการเพิ่มการลงทุน
CMC ยังคงเดินหน้าธุรกิจในฐานะผู้นำด้านการพัฒนาการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน โดยจะสร้างสรรค์โครงการที่มีคุณภาพสูง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชุมชนและสร้างคุณค่าให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
Commentaires