กทม. เรียนรู้จากปารีส เดินหน้าร่วมออกแบบย่าน สุขุมวิท-สีลม เป็นเมืองเดินได้และยั่งยืน โดยเปิดทางเอกชน-ประชาชนมีส่วนร่วม

. วันที่ 24 เม.ย. 68 ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส: นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมประชุมหารือกับผู้บริหารจาก สำนักงานเพื่อการพัฒนาแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส (AFD) และหน่วยงานในเครือ AFD Groupe เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน และหารือการต่อยอดความร่วมมือเชิงเทคนิคในหลากหลายมิติที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของกรุงเทพมหานคร.

 การหารือครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภายใต้ AFD Groupe ที่เชี่ยวชาญในสาขาสำคัญ ได้แก่ การพัฒนาเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน (Urban Development) ระบบขนส่งมวลชน (Transport) การบริหารจัดการน้ำและสุขาภิบาล (Water and Sanitation) การพัฒนาโครงการร่วมกับภาคเอกชน (Public-Private Partnership - PPP)

.

 โดยกรุงเทพมหานครได้แสดงความสนใจในความช่วยเหลือทางเทคนิคจากฝรั่งเศส โดยเฉพาะในประเด็นเร่งด่วน เช่น การอนุรักษ์พลังงานและส่งเสริมพลังงานสีเขียว ระบบจัดการที่จอดรถด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart Parking) การสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) การพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียของเมืองให้มีประสิทธิภาพ การพัฒนาการต่อยอดโครงการพัฒนาพื้นที่สุขุมวิทใต้เป็นกรณีศึกษา

.

 "กรุงเทพมหานครมุ่งมั่นพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนและทันสมัย โดยเปิดรับความร่วมมือจากต่างประเทศ ทั้งด้านเทคโนโลยี การบริหารจัดการ และการวางแผนระบบเมืองที่ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงในอนาคต” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว.

 ทั้งนี้ ประโยชน์ที่กทม. จะได้รับจากความร่วมมือกับ AFD ได้แก่ การเข้าถึงแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำจากสหภาพยุโรปและฝรั่งเศส การถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีด้านการพัฒนาเมือง การเสริมสร้างขีดความสามารถของบุคลากรในการบริหารจัดการเมือง

.

 ในโอกาสเดียวกัน คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ยังได้เข้าพบกับผู้แทนจาก Comité Champs-Élysées สมาคมภาคเอกชนที่มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการและฟื้นฟูถนนฌ็องเซลิเซ่ (Avenue des Champs-Élysées) ถนนสายประวัติศาสตร์ของกรุงปารีส

.

 การหารือมุ่งเน้นบทบาทของภาคเอกชนในการสนับสนุนภาครัฐในการพัฒนาเมือง โดยเฉพาะการออกแบบพื้นที่สาธารณะให้รองรับคนเดินเท้า สร้างกิจกรรมทางวัฒนธรรม และปรับปรุงภูมิทัศน์โดยยังคงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งสมาคมยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการจัดกิจกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น Paris Fashion Week เพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้ถนนฌ็องเซลิเซ่กลับมาเป็นหมุดหมายสำคัญของนักท่องเที่ยวและชาวเมืองอีกครั้ง โดยเน้นการสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงศิลปะ วัฒนธรรม และการใช้ชีวิตในพื้นที่เมืองอย่างมีเอกลักษณ์ ซึ่งกรุงเทพมหานครมองว่า สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับพื้นที่เมืองเก่า เช่น ถนนสีลม และแยกราชประสงค์ ได้อย่างเหมาะสม

.

 นอกจากนี้ คณะฯ ยังได้พบหารือกับผู้บริหาร Paris La Défense หน่วยงานที่บริหารจัดการย่านธุรกิจขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการพัฒนาเมืองในมิติต่าง ๆ และสำรวจความเป็นไปได้ในการสร้างความร่วมมือในอนาคต

.

 Paris La Défense แสดงความสนใจในการร่วมพัฒนาพื้นที่กับกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะในด้าน smart city, โครงการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบผสมผสาน (mixed-use), การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเศรษฐกิจ และการออกแบบเมืองให้ยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

.

 การพบหารือในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการเปิดประตูสู่ความร่วมมือระดับนานาชาติ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของกรุงเทพมหานครสู่การเป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน