รายงานพิเศษ


ความพยายามที่จะเปลี่ยนรางรถไฟทางเดี่ยว มาสู่รถไฟทางคู่มีมานาน และเป็นสิ่งที่ประชาชนรอคอยความหวังเพื่อใช้เดินทาง ปัจจุบันเริ่มปรากฏภาพชัดเจนมากขึ้น และเชื่อว่าจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการเพิ่มในอีกหลายเส้นทาง เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งระบบราง สนับสนุนการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า รองรับจำนวนผู้โดยสารและปริมาณการขนส่งสินค้าเพิ่มสูงขึ้น
และสอดคล้องตามนโยบายการพัฒนาระบบขนส่ง โลจิสติกส์ และแผนการพัฒนาต่างๆ ของรัฐบาล ที่สนับสนุนให้มีการใช้ระบบขนส่งระบบราง เพื่อช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนน ลดมลพิษ ลดต้นทุนการขนส่งสินค้า และสามารถประหยัดการใช้พลังงานของประเทศได้ในระยะยาว!!!

CLOSE-UP THAILAND นำทุกท่านไปหาคำตอบเรื่องนี้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งรับผิดชอบการเดินทาง และขนส่งทางราง มีเส้นทางยาวกว่า 4,051.999 กิโลเมตร ครอบคลุม สายเหนือ สายอีสาน สายใต้ สายตะวันออกและสายตะวันตก ซึ่งพบว่า ขณะนี้ การรถไฟฯมีแผนเปลี่ยนรางเดี่ยวสู่รางคู่ เพื่อเพิ่มความสะดวกการเดินทาง ขณะเดียวกันก็เพิ่มเติมด้วยรถไฟสายใหม่ อยากรู้กันแล้วใช่มั้ย??? มาถึงตรงนี้ เราลองตามไปดู !!!

(จากรถไฟทางเดียว-สู่รถไฟทางคู่)


พลิกแผนการพัฒนา
รถไฟรางคู่รฟท. มองภาพผ่าน 16 โครงการ
ขณะนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย แบ่งการดำเนินงานรถไฟทางคู่ออกเป็นระยะๆ เนื่องจากมีสายทางที่ยาว จึงพิจารณาจากความจำเป็นเร่งด่วน และความเหมาะสมในแต่ละเส้นทาง ทำให้ขณะนี้มีบางเส้นทางเปิดให้บริการแล้ว บางแห่งเตรียมเปิดเร็ว ๆ นี้ บางแห่งกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้าง ขณะที่อีกหลายโครงการออกแบบแล้วเสร็จรอขออนุมัติโครงการก่อสร้างเท่านั้น
ดังนั้น จึงแบ่งโครงการถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 รยะที่ 2 และเส้นทางสายใหม่ รวมจำนวน 16 โครงการ ประกอบด้วย
1.โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 (อยู่ระหว่างก่อสร้าง) จำนวน 7 โครงการ
2.โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 (อยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการ) จำนวน 7 โครงการ
3.โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่(อยู่ระหว่างก่อสร้าง) จำนวน 2 โครงการ
ทีนี้ เราลองตามไปดูว่าแต่ละโครงการคืบหน้ากันไปถึงไหนแล้ว???


โครงการก่อสร้างรถไฟที่ทางคู่ ระยะ 1 (อยู่ระหว่างก่อสร้าง) จำนวน 7 โครงการ
1.ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กิโลเมตร ขณะนี้เปิดให้บริการเรียบร้อยแล้ว
2.ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 187 กิโลเมตร ขณะนี้เปิดให้บริการเรียบร้อยแล้ว
3.ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร มี 2 ช่วง ระยะทาง 167 กิโลเมตร ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง โดยความคืบหน้า ดังนี้
- สัญญา 1 ประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย ระยะทาง 88 กิโลเมตร ความคืบหน้า 99.425% (-0.575 %)
- สัญญา 2 บางสะพานน้อย-ชุมพร ระยะทาง 79 กิโลเมตร ความคืบหน้าก่อสร้าง 99.245% (-0.755 %)
ทั้ง 2 ช่วงมีกำหนดเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2567
4. มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง โดยความคืบหน้า ดังนี้
- สัญญา 1 มาบกะเบา-คลองขนานจิตร ระยะทาง58 กิโลเมตร ความคืบหน้า96.310% (-3.690%)กำหนดแล้วเสร็จเดือนมีนาคม 2568
- สัญญา 2 คลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ1 ระยะทาง 69กิโลเมตร โดยสัญญา คลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ การรถไฟฯ ได้รับข้อร้องเรียนจากเทศบาลตำบลบ้านใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ขอให้แก้ไขรูปแบบการก่อสร้างเป็นทางยกระดับระยะทาง 7.85 กิโลเมตร เพื่อให้สอดคล้องกับโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา การรถไฟฯ ได้เสนอแนวทางดังกล่าวต่อกระทรวงคมนาคม ต่อมากรมการขนส่งทางราง ได้มีความเห็นให้การรถไฟฯ ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม ปัจจุบันการรถไฟฯ ได้มอบหมายให้ที่ปรึกษาจัดเตรียมข้อมูลเพิ่มเติมคาดว่าจะเสนอกลับไปที่กระทรวงคมนาคมได้เร็ว ๆ นี้
- สัญญา 3 อุโมงค์รถไฟ ระยะทาง 5 กิโลเมตร ความคืบหน้า 98.188% (-1.812%) กำหนดแล้วเสร็จเดือน สิงหาคม2567

5. นครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 169 กิโลเมตร ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง โดยความคืบหน้า ดังนี้
- สัญญา 1 นครปฐม-หนองปลาไหล ระยะทาง 93 กิโลเมตร ความคืบหน้า98.319% (-1.681%)กำหนดแล้วเสร็จเดือนกรกฎาคม 2567
- สัญญา 2 หนองปลาไหล-หัวหิน ระยะทาง 76 กิโลเมตร ความคืบหน้า99.313% (-0.687%)กำหนดแล้วเสร็จเดือนสิงหาคม2567

6. ลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 169 กิโลเมตร ขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง โดยความคืบหน้า ดังนี้
- สัญญา 1 บ้านกลับ-โคกกะเทียม ระยะทาง 32 กิโลเมตร ความคืบหน้า 91.820% (-8.180%) กำหนดแล้วเสร็จเดือนกันยายน2567
- สัญญา 2 ท่าแค-ปากน้ำโพ ระยะทาง 116 กิโลเมตร ความคืบหน้า 83.930% (-16.070%) กำหนดแล้วเสร็จเดือนตุลาคม 2567

7. หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กิโลเมตร งานก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนตุลาคม2566
ส่วนงานระบบอาณัติสัญญาณ มีความคืบหน้า ดังนี้
-สายเหนือ ระยะทาง 148 กิโลเมตร ความคืบหน้า58.350% (-41.060%) กำหนดแล้วเสร็จเมษายน2568
-สายตะวันออกเฉียงเหนือ ระยะทาง 132กิโลเมตร ความคืบหน้า32.490% (-67.510%) กำหนดแล้วเสร็จ ตุลาคม 2567
-สายใต้ หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง420 กิโลเมตร ความคืบหน้า 58.489% (-41.511%) กำหนดแล้วเสร็จเดือนสิงหาคม 2567
หมายเหตุ....ความคืบหน้า ณ เดือนเมษายน 2567

โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 (อยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการ)
8. ปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 281 กิโลเมตร ออกแบบแล้วเสร็จ โดยคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทยมีมติเห็นชอบเมื่อ 22 ก.พ. 2567
9. ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308กิโลเมตร ออกแบบแล้วเสร็จ โดยคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทยมีมติเห็นชอบเมื่อ 22 ก.พ. 2567
10. ขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กิโลเมตร ออกแบบแล้วเสร็จ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบเมื่อวันที่ 16 ต.ค.66ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดเตรียมประกวดราคาก่อสร้าง
11. ชุมพร-สุราษฎร์ธานี ระยะทาง168กิโลเมตร ออกแบบแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทยให้ความเห็นชอบ
12. สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา ระยะทาง321กิโลเมตร ออกแบบแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างเสนอ คณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทยให้ความเห็นชอบ
13. เด่นชัย-เชียงใหม่ ระยะทาง 189กิโลเมตร ออกแบบแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอ ขออนุมัติโครงการ และพิจารณา EIA
14. ชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ รยะทาง 45 กิโลเมตร ออกแบบแล้วเสร็จ คณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทยมีมติเห็นชอบเมื่อ 22 ก.พ. 2567
หมายเหตุ....ความคืบหน้า ณ เดือนเมษายน 2567

โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายใหม่(อยู่ระหว่างก่อสร้าง)
1. เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 322 กิโลเมตร แบ่งเป็น 3 สัญญา ดังนี้
- สัญญา 1 ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 103 กิโลเมตร ผลงาน9.165% (4.681%) แผนงานสะสม 4.484% กำหนดสร้างแล้วเสร็จ เดือนมกราคม2571
- สัญญา 2 ช่วงงาว –เชียงราย ระยะทาง 132 กิโลเมตร ผลงาน 10.816%(-0.421%) แผนงานสะสม 11.237%กำหนดแล้วเสร็จเดือนมกราคม2571
- สัญญา 3 ช่วงเชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 87 กิโลเมตร ผลงาน 7.792% (-5.188%) แผนงานสะสม12.980% กำหนดแล้วเสร็จเดือนมกราคม2571

2. บ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กิโลเมตร แบ่งเป็น 2 สัญญา ดังนี้
- สัญญา 1 ช่วงบ้านไผ่-หนองพอก ระยะทาง 180 กิโลเมตร ผลงาน 6.424% (-8.042%) แผนงานสะสม 14.466% กำหนดแล้วเสร็จ เดือนกุมภาพันธ์ 2570
- สัญญา 2 ช่วงหนองพอก-สะพานมิตรภาพ ระยะทาง 175 กิโลเมตร ผลงาน 0.125% (-11.365%)แผนงานสะสม 10.514% กำหนดแล้วเสร็จเดือนมีนาคม2570

หมายเหตุ..ความคืบหน้า ณ เดือนเมษายน 2567
ข่าวดี!!!รถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม – ชุมพร
พร้อมเปิดให้บริการเต็มระบบปลายปี 2567 แน่นอน!!!!

หลังจากได้ติดตามแผนงานทั้ง 16 โครงการกันแล้วว่า คืบหน้าไปถึงไหนกันบ้าง คราวนี้จะพาไปทำความรู้จักกับโครงการที่มีเป้าหมายเปิดได้เต็มระบบปลายปีนี้
"โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม – ชุมพร"
โดยเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยคณะลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ติดตามความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม – ชุมพร

"การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการติดตามงานเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงด้านคมนาคม โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใต้ ช่วงนครปฐม – ชุมพร ซึ่งมีความสำคัญต่อการเพิ่มประสิทธิภาพระบบการขนส่งทางราง และการเดินทางของพี่น้องประชาชนในการเดินทางสู่ภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ที่ผ่านมามีประชาชนใช้บริการรถไฟในเส้นทางสายใต้เป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวก พึงพอใจในการใช้บริการและลดเวลาการเดินทางให้น้อยลง
สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงนครปฐม-ชุมพร เป็นโครงการสำคัญในเส้นทางสายใต้ มีระยะทาง 420 กิโลเมตร งบประมาณการก่อสร้าง 33,982 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ได้เปิดให้บริการระหว่าง สถานีบ้านคูบัว จ.ราชบุรี ถึงสถานีสะพลี จ.ชุมพร รวมระยะทาง 348 กิโลเมตร
ส่วนช่วงที่ 2 ของสายใต้ระหว่างสถานีโพรงมะเดื่อ-บ้านคูบัว ระยะทาง 50 กิโลเมตร และสถานีสะพลี – ด้านเหนือสถานีชุมพร ระยะทาง 12.80 กิโลเมตร อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยในส่วนของงานโยธาได้ดำเนินการใกล้เสร็จครบทั้งหมด งานด้านระบบอาณัติสัญญาณ มีความคืบหน้าแล้ว 58.489% และตามแผนจะเปิดใช้ทางคู่ประมาณช่วงเดือนมิถุนายน 2567
ด้านภาพรวมความก้าวหน้าของโครงการรถไฟทางคู่สายใต้ทั้งระบบ ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 สัญญา ขณะนี้ทุกโครงการมีความก้าวหน้าตามลำดับ โดยคาดว่าทุกโครงการจะดำเนินการาแล้วเสร็จภายในปีนี้ และมีความพร้อมเปิดให้บริการทางคู่สายใต้ได้เต็มระบบภายในปลายปี 2567 " คำยืนยันด้วยความมั่นใจของนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
ส่วนความคืบหน้าของทั้ง 5 สัญญาในสายใต้ขอนำมาย้ำให้แลเห็นภาพชัดขึ้นอีกครั้ง !!!!!
1. ช่วงนครปฐม – หัวหิน สัญญาที่ 1 (นครปฐม – หนองปลาไหล) ระยะทาง 93 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 8,198 ล้านบาท ความคืบหน้าผลงาน 98.319% ล่าช้ากว่าแผน 1.681%
2. ช่วงนครปฐม – หัวหิน สัญญาที่ 2 (หนองปลาไหล - หัวหิน) ระยะทาง 76 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 7,520 ล้านบาท ความคืบหน้าผลงาน 99.313% ล่าช้ากว่าแผน 0.687%
3. ช่วงหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 84 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 5,807 ล้านบาท ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ
4. ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร สัญญาที่ 1 (ประจวบคีรีขันธ์ - บางสะพานน้อย) ระยะทาง 88 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 6,465 ล้านบาท ความคืบหน้าผลงาน 99.245% สร้างล่าช้ากว่าแผนงาน 0.755 %
5. ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร สัญญาที่ 2 (บางสะพานน้อย - ชุมพร) ระยะทาง 79 กิโลเมตร งบประมาณก่อสร้าง 5,992 ล้านบาท ความคืบหน้าผลงาน 99.425% สร้างล่าช้ากว่าแผนงาน 0.575 %

ส่วนการดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายอื่น และรถไฟทางสายใหม่ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการนั้น ได้มอบหมายให้การรถไฟฯ เร่งติดตามดำเนินการให้เสร็จตามแผนที่กำหนดโดยเร็วเช่นกัน


" โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ถือเป็นภารกิจสำคัญในการยกระดับการเดินทาง ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่งระบบราง ลดต้นทุนการขนส่งระบบโลจิสติกส์ เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้าทางรถไฟ ลดระยะเวลาในการเดินทาง พัฒนาคุณภาพชีวิต ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงลดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เชื่อมโยงเครือข่ายการบริหารจัดการระบบขนส่งมวลชน สินค้าและบริการ ทั้งในพื้นที่ชนบท เมือง และประเทศเพื่อนบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังเป็นการเชื่อมต่อระบบการขนส่งเส้นทางท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพร เช่น รถเช่า เรือท่องเที่ยว และธุรกิจอื่นๆ ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืนต่อไป”นายสุรพงษ์ ให้แนวทางเพื่อให้ทุกโครงการเดินไปตามแผนงานและสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนต่อไป
ทั้งหมดที่อัพเดทแผนรถไฟรางคู่ ผ่าน 16 โครงการ ที่มีทั้งแบบยกระดับ จากรถไฟรางเดียว สู่รางคู่สายเดิมบางช่วง และเพิ่มเติมสายใหม่ๆ เพื่อสร้างความสะดวก ความปลอดภัยการดินทาง และการขนส่งผ่านทางราง ลดเวลาการเดินทาง ลดค่าพลังงานของประเทศ และลดอุบัติเหตุไปพร้อมๆกัน ดังที่ได้บอกเล่ามา คงทำให้หลายคนแลเห็นภาพว่า ประเทศไทย มีแผนเกี่ยวกับรถไฟทางคู่ เส้นทางใดบ้าง และขั้นตอนความคืบหน้าไปถึงไหนกันบ้าง?แบบ 360 องศาคงให้คำตอบแก่ผู้สนใจติดตาม และใช้เป็นข้อมูล โดยความคืบหน้าข้างต้น ณ เดือนเมษายน 2567 และหลายเส้นทางก็จะมีความคืบหน้าตามลำดับต่อไป!!!
โดย กองบรรณาธิการ CLOSE-UP THAILAND สื่อเพื่อการพัฒนาสู่ความยั่งยืน
Comentarii