top of page

ต่อยอด" ธวัชบุรีโมเดล"รมว.ยุติธรรม ลงพื้นที่ลุยแก้ปัญหายาเสพติด พร้อมเยี่ยมหนุ่มบุรีรัมย์ “ติดยา-พนัน” ณ โรงพยาบาลธัญญารักษ์ขอนแก่น


ในวันอาทิตย์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๓๐ น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม คณะผู้บริหารจากกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนนายเอ็ม (นามสมมุติ) ชาวอำเภอนางรอง จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งถูกมารดาสร้างห้องขังไว้ภายในบ้านพักหลังทนกับพฤติกรรมการติดยาเสพติดและการพนันไม่ไหว ณ โรงพยาบาลธัญญารักษ์ขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น


โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้พูดคุยกับผู้เป็นมารดาผ่านระบบ Video Call เพื่อให้กำลังใจและรายงานความคืบหน้าขั้นตอนการบำบัดรักษาในระยะ ๑ สัปดาห์ที่นำตัวนายเอ็มจากจังหวัดบุรีรัมย์มาบำบัดที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ขอนแก่น ก่อนที่จะเข้าตรวจติดตามการบำบัดฟื้นฟูนายเอ็ม ซึ่งอยู่ในกระบวนการบำบัดของโรงพยาบาลฯ ร่วมกับผู้บำบัดรายอื่นตามตารางกิจกรรมที่กำหนด

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นที่อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประเด็นสำคัญที่รัฐบาลจะต้องจริงจังในการปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด แม้บางพื้นที่รัฐจะบอกว่ารายงานเป็นศูนย์ แต่ชาวบ้านแจ้งว่ายังมียาเสพติดระบาดหรือมีพื้นที่เสี่ยง แบบนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ เราต้องบูรณาการการทำงานร่วมกันทุกฝ่าย ทั้งนี้ กรณีนายเอ็ม เดิมอาจจะมองว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวชและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนางรอง หรือหน่วยบำบัดต่าง ๆ มาแล่วกว่า ๑๐ ครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ส่งมาบำบัดที่โรงพยาบาลธัญญารักษ์ขอนแก่น ซึ่งครอบครัวก็มีความหวังว่านายเอ็มจะหายขาด ตามวิธีการบำบัดบัดรักษาทางการแพทย์เฉพาะทาง และที่สำคัญคือนายเอ็มมีบุตรด้วย ดังนั้นกระบวนการสร้างความเข้มแข็งที่เริ่มจากครอบครัวจะต้องจริงจังและชัดเจน

ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการปราบปรามยาเสพติด เช่น ธวัชบุรีโมเดล ที่นายกรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่และกำหนดเป็นพื้นที่นำร่องปลอดยาเสพติด ซึ่งจะต้องเข้มงวดตรวจซ้ำทุกพื้นที่อย่างละเอียด ควบคู่ไปกับการบำบัด ซึ่งในการบำบัดรักษาที่จังหวัดขอนแก่นเป็นตัวอย่างที่สำคัญที่ทำได้จริงและอยู่ในลำดับต้น ๆ ของประเทศ เพราะเมื่อปราบปรามจับกุมผู้ค้ามาดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ผู้เสพ ยังคงมีการบำบัดด้วยวิธีทางการแพทย์ ตรวจเข้ม ตรวจซ้ำจากโรงพยาบาลแล้วยังคงมาอยู่ในศูนย์ฟื้นฟูหรือซีไอที่ตั้งขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดของผู้นำที่ทำจริง และต้องการแก้ไขปัญหาให้กับจังหวัดลงลึกไปในระดับอำเภอ ตำบล หมู่บ้าน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวต่ออีกว่า จากข้อมูลผู้ที่ถูกคุมขังในคดียาเสพติด พบว่า มีจำนวนกว่า ๒๐๐,๐๐๐ ราย ที่การศึกษาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าภาคเรียนบังคับ ดังนั้น การสร้างคนให้มีคุณภาพแม้จะเป็นผู้ที่ถูกคุมขังหรือต้องราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรมจะนำเรื่องนี้มาบูรณาการกับกระทรวงศึกษาธิการหรือกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้ผู้ที่ถูกคุมขังได้เรียนทั้งแบบวิชาการและวิชาชีพ เพราะเมื่อกลุ่มคนเหล่านี้พ้นโทษออกไปก็จะมีความรู้จากงานด้านวิชาการและวิชาชีพติดตัวไปด้วย





Comentários


ดาวน์โหลด (1).png

เพื่อให้ทุกท่านสามารถติดตามประเด็นวิเคราะห์เจาะลึกผ่านทาง CLOSE-UP THAILAND เชิญเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @closeupthailand

bottom of page