top of page

นักเศรษฐศาสตร์ชี้หมู และสินค้าแพงขณะนี้เป็นปัญหาSupply ไม่ใช่Demandติงรองนายกฯอย่าทำให้ชาวบ้านสับสน!




ศ.ดร.กิตติ ลิ่มสกุล นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ระดับโลก ในฐานะอาจารย์ประจำทั้งที่คณะเศรษฐษศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยนาโกย่า ประเทศญ๊่ปุ่นมาก่อน เสนอมุมมองต่อสถานการณ์สินค้าราคาแพงในขณะนี้ ผ่านบทความพิเศษไว้น่าสนใจ ...ลองไปติดตาม


"สินค้าในประเทศมีราคาแพงขณะนี้ เป็นปัญหาด้านอุปทาน (supply) หมายถึง ปริมาณความต้องการเสนอขายสินค้าและบริการ ซึ่งหลังจากเกิดวิกฤตแล้ว ส่วนใหญ่ปัญหาจะเกิดทางฝั่งอุปทาน

ส่วนสินค้าทั่วไปหลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจทุกครั้ง สิ่งที่เกิดตามมา คือ Supply Shock หรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งเปลี่ยนอุปทานของผลิตภัณฑ์หรือสินค้าโภคภัณฑ์อย่างกะทันหัน ส่งผลให้ราคาเปลี่ยนแปลงโดยไม่คาดคิด ทำให้สินค้าไม่เพียงพอ เพราะการขนส่ง การผลิตไม่สามารถทำได้

การที่รองนายกฯ พูดว่าเป็นปัญหาด้านอุปสงค์ (Demand) หรือความต้องการซื้อ มีคนไปแย่งกันซื้อสินค้า น่าจะไม่ถูกต้อง ไม่รู้ไปเรียนมาจากที่ไหน เพราะที่จริงแล้วเป็นปัญหาด้านอุปทาน

เงินเฟ้อมีอยู่ 2 ด้านเสมอ คือ ด้านอุปทานกับอุปสงค์ กรณีที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นปัญหาด้านที่เกิดจาก Supply Shock เพราะสินค้าเกี่ยวกับโภคภัณฑ์ทั้งหลายปรับราคาขึ้นทั้งหมด เพราะการผลิตหยุดชะงักสืบเนื่องมาจากโควิด-19


วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นรัฐบาลต้องทำทีละเรื่อง ถ้าเป็นเรื่อง สุกร ต้องเปิดให้นำเข้าเสรี ซึ่งไม่ง่าย ถ้าเริ่มเปิดให้นำเข้าวันนี้ก็ต้องใช้เวลา การให้นำสินค้าข้างนอกเข้ามาจากแหล่ง ที่ไม่มีโรคระบาด เช่น ยุโรป อเมริกา จะช่วยผู้บริโภค ได้ดีขึ้น

โครงการคนละครึ่งไม่ต้องแจกแล้ว แต่ให้นำเงินส่วนนี้มาอุดหนุนการซื้อสินค้าโภคภัณฑ์บางชนิด แต่รัฐบาลคงอยากทำโครงการคนละครึ่งมากกว่า ดังนั้น การจัดการด้านอุปทาน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำเฉพาะหน้าทันที


ปัญหาสุกร หากรัฐบาลตัดสินใจช้าการแก้ปัญหาก็ทำได้ช้าไปอีก จะบอกให้ไปกินอย่างอื่นนั้นไม่ถูกต้องเพราะรัฐบาลมีหน้าที่ต้องแก้ปัญหา ส่วนจะฟื้นผู้ประกอบการทั้งหมด รัฐบาลต้องทุ่มงบลงไป ไม่เช่นนั้น Supply Shock ทำให้เกิดปัญหาตามมาหลายเรื่อง

นอกจากนี้ ควรลดภาษีสรรพสามิต เพราะถ้าราคาน้ำมันลดลงเรื่องของ Supply Shock ก็ลดลงได้ เพราะน้ำมันเป็นต้นทางการผลิตสินค้า


ปัญหาราคาสินค้าแพงวันนี้ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปตามธรรมชาติ แต่เพราะรัฐบาลผิดพลาดอย่างแท้จริง ปล่อยปละละเลย ไม่ได้ติดตามอย่างจริงจัง ถามว่าผิดจากด้านไหน หากเป็นเรื่องสุกรก็ผิดตั้งแต่รมว.เกษตรฯ อธิบดีกรมปศุสัตว์ รวมถึงนายกฯ ด้วย ทั้ง 3 คนต้องรับผิดชอบ

หากเป็นประเทศญี่ปุ่นหรือประเทศที่เจริญแล้วต้องมีการลาออกจากตำแหน่ง เพราะถือเป็นเรื่องใหญ่มาก เนื่องจากไม่มีการบริหารราชการแผ่นดินเลย ทั้งที่รู้ว่าจะเกิดปัญหา ต้องเร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยการนำเข้าสุกร รมว.คลัง ต้องยกเลิกโครงการคนละครึ่ง เอาเงินมาแก้ปัญหาเรื่องสุกร ถ้าไม่นำเข้าจะเกิดปัญหาอีกหลายเดือน


เรื่องของแพงอาจทำให้รัฐบาลสั่นคลอนจนล้มได้ ฝ่ายค้านควรนำปัญหาเข้าสู่รัฐสภา เพื่อซักฟอก อย่างน้อยให้รัฐบาลได้ตอบว่าเหตุใดจึงปล่อยปละละเลย เมื่อซักฟอกแล้วรัฐบาลจะรับผิดชอบหรือไม่ ก็ไม่ทราบ แต่อย่างน้อยจะทำให้รัฐบาลหาวิธีแก้ปัญหา

ในส่วนรัฐบาล ขอแนะนำนายกฯ ไม่ต้องรอฝ่ายค้าน ให้รีบเปิดสภา เพื่อรับฟังฝ่ายค้านว่ามีข้อเสนออะไร ในการแก้ปัญหาสินค้าแทบทุกชนิดที่มีราคาแพง"


Comments


ดาวน์โหลด (1).png

เพื่อให้ทุกท่านสามารถติดตามประเด็นวิเคราะห์เจาะลึกผ่านทาง CLOSE-UP THAILAND เชิญเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @closeupthailand

bottom of page