top of page

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีทางศาสนามหามงคลถวายพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี พุทธศักราช 2568



วันที่ 14 มกราคม 2568 ณ เต็นท์พิธี ท้องสนามหลวง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เป็นประธานในพิธีทางศาสนามหามงคลถวายพระราชกุศล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี พุทธศักราช 2568  โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เข้าร่วมพิธี 


นายกรัฐมนตรีกล่าวถวายราชสดุดีถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความว่า


“ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในนามของพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ที่มาชุมนุมพร้อมกันอยู่ ณ ที่นี้  ต่างมีความปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง  ที่วันนี้เป็นวาระพิเศษอีกครั้งหนึ่ง ในประวัติศาสตร์ของชาติ ด้วยเป็นมงคลสมัย ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท มีพระชนมายุเสมอด้วย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช  ผู้ทรงเป็นปฐมบรมกษัตริย์  แห่งพระมหาจักรีบรมราชวงศ์  และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ตั้งการพระราชพิธีสมมงคลขึ้น  ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระบรมราชบูรพการีพระองค์นั้น กับทั้งเพื่อเป็นสวัสดิมงคลแก่รัชสมัยปัจจุบันด้วย 


พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีพระชนมายุยืนยาว กำหนดนับได้ 26,469 วัน  ตลอดพระชนม์ชีพได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ที่เป็นคุณประโยชน์มหาศาลแก่ประเทศชาติทรงกู้วิกฤต และพลิกฟื้นความเป็นบ้านเมืองให้คืนคง ได้ทรงวางรากฐานความเจริญในเบื้องต้น  แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ให้ยืนยาวสืบมาจนถึงปัจจุบัน พระเดชพระคุณเป็นที่ล้นพ้นเกินจะพรรณนา 


เมื่อถึงกาลสมัยที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท  มีพระชนมายุยั่งยืน เสมอด้วยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช จึงเป็นเหตุพิเศษอันควรชื่นชมยินดี ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ผู้ทรงรักษาสืบสานและต่อยอดพระราชปณิธานและพระราชกรณียกิจจากสมเด็จพระบรมราชบูรพการีจะได้ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล  เฉลิมพระเกียรติยศพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พร้อมกันนั้น ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย จะได้ร่วมบำเพ็ญกุศลสมโภช ตามความเชื่อถือของประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกศาสนา  โดยตลอดทั่วถึงทั้งพระราชอาณาจักร 


ในอภิลักขิตสมัยพิเศษครั้งนี้ ข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคลด้วยอำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่เคารพเลื่อมใส มีพระสยามเทวาธิราชเป็นอาทิกับทั้งพระบรมเดชานุภาพ  แห่งสมเด็จพระบูรพกษัตริย์ทุกพระองค์ ได้พร้อมกันอภิบาลรักษาให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงพระเจริญสุขสิริสวัสดิ์ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน สัพพกิจการที่ต้องพระราชประสงค์จงสัมฤทธิ์ สถิตเหนือเศียรเกล้าของประชาชาวไทยตราบกาลนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ” 


จากนั้น นายกรัฐมนตรี จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล จากนั้นพระสงฆ์ให้ศีล พระสงฆ์ 10  รูป เจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล ลำดับถัดมาผู้นำศาสนาอิสลามประกอบพิธีดุอาอ์ขอพร ผู้นำศาสนาคริสต์ประกอบพิธีอธิษฐานภาวนาขอพร พราหมณ์สวดถวายพระพร และศาสนาจารย์ (ศาสนาซิกข์) สวดอัรดาสและกีรตันขอพรจากพระศาสดาตามลำดับ  เสร็จแล้วนายกรัฐมนตรีกราบลาพระรัตนตรัย ถวายความเคารพพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ กราบลาประธานสงฆ์ ถวายของที่ระลึกแด่ประธานสงฆ์ พร้อมมอบของที่ระลึกแก่ผู้นำศาสนา เป็นอันเสร็จพิธี

Comments


ดาวน์โหลด (1).png

เพื่อให้ทุกท่านสามารถติดตามประเด็นวิเคราะห์เจาะลึกผ่านทาง CLOSE-UP THAILAND เชิญเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @closeupthailand

bottom of page