top of page

"มาบตาพุดระทม"ระดมสกัดน้ำมันดิบรั่วกลางทะเลมาบตาพุด ระยองกว่า 1.6 แสนลิตร



ที่สำนักงานท่าเรือมาบตาพุด อำเภอเมือง จังหวัดระยอง มีการตั้งวอร์รูม เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันดิบ จากท่อใต้ทะเลของบริษัทสตาร์ ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) นับแสนลิตร รั่วไหลลงทะเล โดยมีเจ้าหน้าที่ท่าเรือมาบตาพุด เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมที่ 13 การนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด กรมเจ้าท่า เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ชายฝั่งและสิ่งแวดล้อม รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งประชุมหารือ เพื่อสกัดกั้นการเคลื่อนตัวของคราบน้ำมันจำนวนมาก ที่จะถูกกระแสลมพัดเข้าหาฝั่ง โดยล่าสุดได้มีการใช้เรือล้อมคราบน้ำมันด้วยบูมไว้ได้ส่วนหนึ่ง แต่ส่วนที่หลุดรอดไปได้ เจ้าหน้าที่ทหารกองทัพเรือ กำลังใช้เฮลิคอปเตอร์บินตรวจสอบ



ภายหลังการประชุม นายพงษกร ช่อชูวงค์ ผู้จัดการฝ่ายชีวะอนามัยและสิ่งแวดล้อม บริษัทสตาร์ ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) บอกว่า เมื่อคืนนี้มีกิจกรรม การโหลดน้ำมันดิบจากเรือที่เดินทางมาจาก สหรัฐเอมิเรตส์ ไปที่ เอสพีเอ็ม เพื่อขนส่งไปที่บริษัทเพื่อทำการกลั่น โดยเรือบรรทุกน้ำมันมา 3 แสน 2 หมื่นลิตร และประมาณ 3 ทุ่มเศษ ได้กลิ่นไฮโดรคาร์บอนออกมา และพบว่ามีคราบน้ำมันพุ่งมาจากพื้นน้ำ เราจึงหยุดกระบวนการขนส่งน้ำมัน และพยายามเก็บกู้คราบน้ำมัน ประเมินเบื้องต้น คาดว่าน้ำมันสูงสุดที่ออกไปประมาณ 1 แสน 6 หมื่นลิตร ได้ทำการสลายคราบน้ำมันตามกระบวนการ ตั้งแต่เมื่อคืน จนถึงช่วงเช้า คาดวาน่าจะเหลือคราบน้ำมันประมาณ 2-3 หมื่นลิตรอยู่ผิวน้ำ ก็คิดว่าวิธีการที่ใช้ดำจัดมีประสิทธิภาพ คาดว่าภายในวันนี้สถานการณ์จะดีขึ้น ห่วงว่าถ้ากระแสน้ำและลมรุนแรง คราบน้ำมันจะเข้าพื้นที่ชายฝั่ง อาจจะกระทบต่อแหล่งท่องเที่ยว ก็พยายามกำจัดคราบน้ำมันให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อชุมชน และแหล่งท่องเที่ยว ส่วนของน้ำมันดิบ เป็นน้ำมันดิบที่เรียกว่า เมอร์เบิ้ล ซึ่งมีความเบา 50-60 เปอร์เซ็นต์จะเป็นพวก แอลพีจี แนปท่า และน้ำมันดีเซล ซึ่งสามารถระเหยได้เองตามธรรมชาติ และส่วนที่เหลือก็จะช่วยกำจัดได้ด้วยวิธการสลายคราบน้ำมัน ส่วนสาเหตุที่เกิดการรั่วไหล อยู่ระหว่างการตรวจสอบ



อธิบดี 2 กรม ลงเรือตรวจจุดน้ำมันรั่ว มั่นใจสกัดอยู่ บริษัทเผยตรวจสอบพบรั่วแค่ 20,000 ลิตร ไม่ใช่ 4 แสนลิตร คาดกระทบสิ่งแวดล้อม เตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทต้นสังกัด


จากกรณีที่ บริษัทSPRC รีไฟน์นิ่ง จำกัด มหาชน ได้ แถลงการณ์ เกิดน้ำมันดิบจำนวน 400,000 ลิตร รั่วจากท่อใต้ ทะเลของทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล ห่างฝั่งประมาณ 5 ไมล์ทะเล ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยองอาจจะมีผลกระทบต่อบริเวณจังหวัดระยองได้


กรมควบคุมมลพิษ จึงได้ใช้แบบจำลอง OilMap ในการทำนายการเคลื่อนที่ของคราบน้ำมันในทะเล โดยผลของแบบจำลอง OiMap แสดงให้เห็นว่า กลุ่มน้ำมันดังกล่าวอาจเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งทะเลบริเวณหาดแม่รำพึงถึงบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ในวันที่ 28 มกราคม 2565 เวลา 17.00 น. ประมาณ 180,000 ลิตร ล่าสุด นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง เตรียมเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามที่เสนอไปแล้ว


ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 26 ม.ค.65 นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายภูมิพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.ระยอง พร้อมเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางลงเรือ"พยูน" กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ท่าเรือเทศบาลเพ อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อเดินทางไปตรวจสอบกลางทะเลยังจุดที่เกิดน้ำมันรั่ว ห่างจากฝั่งประมาณ 5 ไมล์ทะเล




เมื่อเดินทางไปถึงพบเรือขนาดใหญ่กำลังเก็บกู้น้ำมันดิบ ซึ่งส่งกลิ่นฉุนในบริเวณดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีเฮลิคอปเตอร์บินวนโปรยสารเคมีเพื่อกำจัดคราบน้ำมัน รอบๆพื้นที่ในวงประมาณ 500 เมตร โดยบนผิวทะเลพบคราบน้ำมันลอยอยู่บนผิวน้ำจำนวนมาก บางจุดก็เป็นสีส้มลอยเป็นแพไปตามระลอกคลื่น ในพื้นที่โดยรอบจุดที่น้ำมันรั่วไหลออกมา


นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้กล่าวว่า จากการตรวจสอบจากบริษัทสตาร์ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จำกัด มหาชน ซึ่งสรุปว่า น้ำมันที่รั่วไหลออกมามีจำนวนประมาณ 20,000 ลิตร ไม่ใช่ 400,000 ลิตร ตามที่ประเมินไว้ในช่วงแรก โดยรั่วที่บริเวณท่อใต้น้ำจึงทำให้น้ำมันดิบรั่วออกมา เบื้องต้นมีการกำจัดโดยใช้น้ำยาstcickgone NS Type ฉีดพ่นบนคราบน้ำมันที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ สำหรับสารดังกล่าวเป็นสารละลายที่คุณสมบัติ ทำให้น้ำมันแตกตัวและจมลงสู่ก้นทะเล เพื่อให้คราบน้ำมันจับตัว โดยมีการใช้เฮลิคอปเตอร์บินโปรยสารดังกล่าวรอบๆบริเวณที่น้ำมันรั่ว จากการประเมินสถานการณ์ของบริษัท คาดว่าจะสามารถสกัดคราบน้ำมันไว้ไม่ให้พัดเข้าสู่ชายฝั่งได้


นายอรรถพล เจริาญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ได้กล่าวว่า การกำจัดและควบคุมการกระจายตัวของน้ำมัน นับว่ามีการควบคุมได้อย่างรวดเร็ว และ มีประสิทธิภาพ จนสามารถควบคุมได้รวดเร็ว ส่วนผลกระทบนั้นคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ คงจะต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดว่า เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมมากน้อยเพียงใด


ด้านนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง กล่าวว่า เรื่องความผิดก็ว่าไปตามขั้นตอน ทำผิดก็ต้องดำเนินคดี พร้อมมอบหมายให้ทาง พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.ระยอง ให้ทำการสอบสวน และ ตรวจสอบหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย พร้อมฝากไปยังบริษัทเอกชนต่างๆ ควรตรวจสอบอุปกรณ์ให้อยู่ในมาตรฐาน ปากพบว่าชำรุดหรือเสื่อมสภาพควรเร่งแก้ไข ก่อนจะเกิดความเสียหายตามมา


วราวุธ สั่ง ทช. และ คพ. ร่วมกับ ทร. ผวจ.ระยอง

ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งควบคุมน้ำมันรั่ว


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า คพ. ได้รับการประสานทางโทรศัพท์จากหน่วยงาน สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) เมื่อเวลา 00.10 น. ในวันที่ 26 มกราคม 2565 ว่ามีน้ำมันดิบรั่วไหล จำนวน 128 ตัน (160,00 ลิตร) จากท่อใต้ทะเลของทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล ในบริเวณมาบตาพุด จังหวัดระยอง จุดเกิดเหตุ คือ บริเวณทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล (SPM) ซึ่งเกิดเหตุเมื่อ เวลา 21.06 น. ในวันที่ 25 มกราคม 2565 และจำเป็นต้องยับยั้งไม่ให้น้ำมันเคลื่อนที่เข้าสู่ฝั่ง เนื่องจากลมมีทิศพัดขึ้นไปทางด้านเหนือ อาจจะมีผลกระทบต่อบริเวณจังหวัดระยองได้ และหลังจากที่เกิดเหตุทีมตอบโต้ภาวะฉุกเฉินบริษัทได้ทำการควบคุมสถานการณ์ตามขั้นตอนการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินและได้ทำการหยุดกิจกรรมในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมดตามขั้นตอนความปลอดภัย สามารถควบคุมและหยุดการรั่วไหลตั้งแต่เวลา 00.10 น. ของวันนี้


นายอรรถพล กล่าวว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรี ทส. ได้รับทราบและมีข้อสั่งการให้หน่วยงานใน ทส. โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และ คพ. สนับสนุนการแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกับกองทัพเรือ จังหวัดระยอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อควบคุมน้ำมันจากการรั่วไหลและลดผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีน้ำมันดิบไหลลงทะเลประมาณ จำนวน 128 ตัน (160,00 ลิตร) คพ. ได้รับการประสานจากบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) จำเป็นต้องยับยั้งไม่ให้น้ำมันเคลื่อนที่เข้าสู่ฝั่ง เนื่องจากลมมีทิศพัดขึ้นไปทางด้านเหนือ อาจจะมีผลกระทบต่อบริเวณจังหวัดระยองได้


คพ. ได้สนับสนุนการใช้แบบจำลอง OilMap ทำนายการเคลื่อนที่ของคราบน้ำมันในทะเล โดยผลของแบบจำลอง OilMap แสดงให้เห็นว่าไม่มีการควบคุมป้องกัน กลุ่มน้ำมันดังกล่าวอาจเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งทะเลบริเวณหาดแม่รำพึงถึงบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ในวันที่ 28 มกราคม 2565 เวลา 17.00 น. ทั้งนี้ทางบริษัทจึงควรดำเนินการวางแผนในการจัดการคราบน้ำมันดังกล่าว และป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งในวันนี้ อธิบดี ทช. พร้อม อธิบดี คพ. ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และหน่วยงานตำรวจ ร่วมลงเรือไปติดตาม ณ พื้นที่จุดเกิดเหตุดังกล่าว


ผลการคาดการณ์ดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงของทิศทางลม ความเร็วลม และกระแสน้ำ โดย คพ.จะประสานรับข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับค่าในแบบจำลองให้ใกล้เคียงกับสภาพความเป็นจริงต่อไป นายอรรถพล กล่าว





ที่มา.ขอบคุณข้อมูล #กรมควบคุมมลพิษ-#สำนักงานประชาสัมพันธ์จงหวัดระยอง -#ครอบครัวข่าว3ระยอง-ช้างน้อย แอทระยอง


Comments


ดาวน์โหลด (1).png

เพื่อให้ทุกท่านสามารถติดตามประเด็นวิเคราะห์เจาะลึกผ่านทาง CLOSE-UP THAILAND เชิญเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @closeupthailand

bottom of page