top of page

พิชัยเชื่อ!!!พลัง #ดิจิทัลวอลเล็ต จะสร้าง"4 พายุหมุนทางเศรษฐกิจ" ที่จะเกิดขึ้นในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะสร้างพายุให้เศรษฐกิจไทยหมุนและเติบโต

  • รูปภาพนักเขียน: Close Up Thailand
    Close Up Thailand
  • 24 ก.ค. 2567
  • ยาว 1 นาที

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมแถลงรายละเอียดความคืบหน้าโครงการเติมเงิน10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ซึ่งมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญเพื่อส่งเสริมให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ และช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชน ส่งเสริมให้ประชาชนและชุมชนมีความเข้มแข็งในด้านเศรษฐกิจ สามารถพึ่งพาตนเองได้ สร้างและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาให้เกิดนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม


ทั้งนี้ รัฐบาลจะเปิดให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ในระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม ถึง 15 กันยายน 2567 และมีกำหนดการที่จะให้เริ่มใช้จ่ายในโครงการฯ ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2567(คลิกฟัง)

"4 พายุหมุนทางเศรษฐกิจ" ที่จะเกิดขึ้นในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

.

พายุหมุนลูกที่ 1 การใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้าขนาดเล็ก ถือเป็นกระตุ้นเศรษฐกิจไปยังฐานราก กระจายไปพร้อมกันทุกอำเภอทั่วประเทศ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ประชาชน

พายุหมุนลูกที่ 2 การใช้จ่ายระหว่างร้านค้าขนาดเล็กกับร้านค้าขนาดใหญ่

พายุหมุนลูกที่ 3 การใช้จ่ายระหว่างร้านค้าขนาดใหญ่กับร้านค้าขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้เกิดการต่อยอดกำลังซื้อ การบริโภค หรือสร้างโอกาสในการลงทุนเพื่อประกอบอาชีพ

พายุหมุนลูกที่ 4 พลังการใช้จ่ายของประชาชนแต่ละคนจะเกิดผลต่อการหมุนเวียนของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นทวีคูณ ช่วยฟื้นฟูภาคการผลิตของประเทศ และสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวม


เปิดไทม์ไลน์ โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เริ่มลงทะเบียน 1 ส.ค. นี้

.

เช้านี้ (24 ก.ค. 67) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง พร้อมด้วยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ร่วมแถลงข่าว “ดิจิทัลวอลเลต โครงการเพื่อประชาชน พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้ตั้งแต่ 1 ส.ค. 67 เป็นต้นไป

.

คุณสมบัติประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฯ

1. ประชากรที่มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน

2. สัญชาติไทย

3. มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ปิดรับลงทะเบียน (15 ก.ย. 67)

4. ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566

5. ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันเกิน 500,000 บาท

6. ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ

7. ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ

8. ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่น ๆ ของรัฐ

.

ไทม์ไลน์เข้าร่วมโครงการฯ

ประชาชนกลุ่มที่มีสมาร์ตโฟน ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” บนสมาร์ตโฟน (ระหว่าง 1 ส.ค. - 15 ก.ย. 67)

กลุ่มที่ไม่มีสมาร์ตโฟน อยู่ระหว่างเตรียมการให้เข้าร่วมโครงการฯ ในระยะต่อไป โดยจะให้ลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านช่องทางที่กำหนด (ระหว่าง 16 ก.ย. – 15 ต.ค. 67)

การลงทะเบียนร้านค้า ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 67 เป็นต้นไป

เริ่มใช้จ่ายโครงการฯ ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567

.

ประกาศผลผู้ได้รับสิทธิ์ 22 ก.ย. 67 เป็นต้นไป ผ่านแอปฯ ทางรัฐ กรณีไม่ได้รับสิทธิ์จะแจ้งเหตุผลและให้ข้อแนะนำในการอุทธรณ์

.

เตรียมดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” และทำการยืนยันตัวตนล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพียงดาวน์โหลดผ่าน Google Play Store และ App Store



เปิดขั้นตอนการลงทะเบียน และยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ”ทางรัฐ“ เพื่อรับสิทธิ์โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet


Comments


ดาวน์โหลด (1).png

เพื่อให้ทุกท่านสามารถติดตามประเด็นวิเคราะห์เจาะลึกผ่านทาง CLOSE-UP THAILAND เชิญเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @closeupthailand

bottom of page