top of page

ฟังคำบอกเล่าเรื่องราวอุตสาหกรรมในรอบสัปดาห์ผ่านคอลัมน์ "ปลัดกอบ..ตอบโจทย์"



"สวัสดีแฟนเพจ Facebook กระทรวงอุตสาหกรรม ครับ พบกับผม กอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เช่นเคยนะครับกับรายการ "ปลัดกอบฯ ตอบโจทย์" ซึ่งจะมาพบกับทุกท่านเป็นประจำทุกวันศุกร์ เวลา 08.00 น. สำหรับวันนี้ (4 กุมภาพันธ์ 2565) ผมจะมาเล่าถึงการขับเคลื่อนนโยบายการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรมของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ และบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ทุ่งสง) จำกัด ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี โดยนำร่องการใช้รถบรรทุกหินปูนขนาด 60 ตัน ชนิดไฟฟ้า (EV Mining Truck) เป็นแห่งแรกในประเทศไทย ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษปลอดฝุ่น PM 2.5 เพื่อพัฒนาศักยภาพและยกระดับการก่อสร้างไทยสู่ Green Construction สอดคล้องกับแนวทางอุตสาหกรรมเหมืองแร่สีเขียว ส่วนรายละเอียดของเนื้อหารายการจะเป็นอย่างไรนั้น เชิญทุกท่านติดตามได้เลยครับ


กระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมขานรับนโยบายภาครัฐเพื่อบรรลุเป้าหมายของ COP26 ที่จะเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2593 โดยการกำหนดนโยบายเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยส่งเสริมให้ภาครัฐและภาคเอกชนบูรณาการร่วมกันในการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าและผลักดันให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อส่งเสริมการลงทุนและสนับสนุนผู้ประกอบการ รวมทั้งเร่งผลักดันสิทธิประโยชน์และมาตรการรองรับด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมส่งเสริมและบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าภายในประเทศ ตามแนวนโยบาย BCG Model ซึ่งจะช่วยลดปัญหามลพิษฝุ่นละออง PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ มีนโยบายในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ควบคู่ไปกับการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการมีมาตรฐานที่ดี พร้อมทั้งยกระดับมาตรฐานสถานประกอบการ ให้มีการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน ซึ่งถือเป็นการพัฒนาและยกระดับการประกอบอุตสาหกรรมแร่ของประเทศ ซึ่งสอดคล้องตามนโยบายการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างมาตรฐานเหมืองแร่สีเขียว (Green Mining) โดยโครงการการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า EV Mining Truck นี้ เป็นประโยชน์ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทำให้สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และฝุ่นละออง PM 2.5 ลงได้ครับ

สำหรับการขับเคลื่อนนโยบายการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรมนี้ เป็นการเปิดตัวรถบรรทุกหินปูนขนาด 60 ตันชนิดไฟฟ้า (EV Mining Truck) แห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นการร่วมมือของภาครัฐและองค์กรธุรกิจภาคเอกชน ในโครงการการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่รัฐบาลสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในภาคเอกชน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM 2.5) และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจก (GHG) ที่เกิดจากการสันดาปภายในของเครื่องยนต์ทั่วไป โดยในปีนี้ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ทุ่งสง) จำกัด นำรถบรรทุกหินปูนขนาด 60 ตัน ชนิดไฟฟ้า (EV Mining Truck) จำนวน 4 คัน นำร่องส่งมอบหินปูนด้วยพลังงานสะอาด และคาดว่าจะเปลี่ยนรถบรรทุกหินปูนเป็นชนิดไฟฟ้าได้ 100% ภายในปี พ.ศ. 2568 สามารถลด CO2 ได้รวม 1,148 ตัน CO2/ปี เลยทีเดียวครับ

ทั้งนี้ เอสซีจี ให้การสนับสนุนนโยบายกระทรวงอุตสาหกรรม ทั้งการส่งเสริมห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ไฟฟ้าและลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ตามความมุ่งหวังของเอสซีจี ที่พร้อมจะยกระดับการก่อสร้างไทยสู่ Green Construction เพื่อให้การก่อสร้างของประเทศเกิดการพัฒนา พร้อมสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของเอสซีจีที่ยึดหลัก ESG 4 Plus ได้แก่ (1) มุ่งสู่ Net Zero (2) Go Green (3) Lean ความเหลื่อมล้ำ และ (4) ย้ำความร่วมมือ ภายใต้ความเป็นธรรม โปร่งใส ที่คำนึงถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อม ดูแลสังคม และมีบรรษัทภิบาล รวมถึงธุรกิจ Cement and Green Solution ยังมุ่งพัฒนาการดำเนินงานในระดับมาตรฐานสากล ผ่านการนำเทคโนโลยีมาใช้และสร้างความร่วมมือต่าง ๆ กับองค์กรชั้นนำระดับโลก

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับนโยบายการขับเคลื่อนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรม ในการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษ เพื่อพัฒนาศักยภาพและยกระดับการก่อสร้างไทยสู่ Green Construction สอดคล้องกับแนวทางอุตสาหกรรมเหมืองแร่สีเขียว โดยการนำร่องการใช้งานรถบรรทุกงานเหมืองแร่ ชนิดไฟฟ้า (EV Mining Truck) นี้ จะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้ถึง 71.78 ตัน CO2/ปี/คัน หรือทดแทนการปลูกต้นไม้ได้ 7,555 ต้น/ปี เลยทีเดียวครับ สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณแฟนเพจทุกท่านที่ติดตาม แล้วพบกันใหม่ในสัปดาห์หน้ากับรายการ “ปลัดกอบฯ ตอบโจทย์” ครับ"


เป็นข้อมูลมีประโยชน์ในการทำความเข้าใจทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลังข่าวจึงขออนำมาเผยแพร่ต่อ

Comentarios


ดาวน์โหลด (1).png

เพื่อให้ทุกท่านสามารถติดตามประเด็นวิเคราะห์เจาะลึกผ่านทาง CLOSE-UP THAILAND เชิญเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @closeupthailand

bottom of page