top of page

ภาวะโลกร้อนจะเปิดเส้นทางเดินเรือใหม่ ในทะเลน้ำแข็งนอกเขตควบคุมของรัสเซีย กลางศตวรรษนี้

ต่างประเทศ

การเดินเรือในเขตอาร์กติกที่ปกคลุมไปด้วยแผ่นน้ำแข็งหนานั้น ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่เส้นทางที่เรือสินค้าจะใช้เป็นทางลัดผ่านไปได้ ซึ่งเส้นทางหลักนั้นอยู่ในเขตอิทธิพลของรัสเซียที่กำลังถูกนานาชาติคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ

แต่ในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า หรืออย่างเร็วที่สุดในปี 2035 ภาวะโลกร้อนจะช่วยเปิดเส้นทางใหม่ในมหาสมุทรอาร์กติกตอนเหนือ ให้เรือสินค้าของนานาประเทศผ่านไปได้โดยไม่ต้องใช้เรือตัดน้ำแข็งนำทาง และไม่ต้องใช้เส้นทางหลักที่ลัดเลาะไปตามแนวเขตเศรษฐกิจจำเพาะของรัสเซียอีกด้วย

ทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบราวน์และมหาวิทยาลัยเมนของสหรัฐฯ ตีพิมพ์ผลการศึกษาในวารสาร PNAS ว่าด้วยสภาพภูมิอากาศในเส้นทางเดินเรือทะเลเหนือ จากทะเลคารา (Kara Sea) มาถึงช่องแคบแบริง (Bering Strait) คิดเป็นระยะทาง 24,000 กิโลเมตร ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขตควบคุม 300 กิโลเมตรจากชายฝั่งของรัสเซีย

การแล่นเรือผ่านน่านน้ำดังกล่าว ทำให้รัสเซียสามารถเก็บค่าธรรมเนียมและบริหารจัดการเดินเรือในแถบนั้นได้ตามใจชอบ ซึ่งเป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ แต่บริษัทผู้เดินเรือขนส่งสินค้ามักประสบปัญหากับการทำงานล่าช้าของทางการรัสเซียอยู่เสมอ ประกอบกับมีการคว่ำบาตรรัสเซียหลังเกิดสงครามในยูเครน ทำให้มีความต้องการมองหาเส้นทางใหม่นอกเขตอิทธิพลรัสเซียดังกล่าว

ข่าวดีคือทีมผู้วิจัยพบว่า แบบจำลองภูมิอากาศชี้ถึงความเป็นไปได้สูงในอนาคตอันใกล้ ที่แผ่นน้ำแข็งในเขตน่านน้ำสากลของทะเลเหนือจะละลายตัวมากพอเป็นเวลา 1 เดือนในทุกปี จนสามารถสัญจรผ่านไปมาได้โดยไม่ต้องใช้เรือตัดน้ำแข็ง

สภาพการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นระหว่างปี 2035 - 2065 โดยจะเกิดขึ้นช้าหรือเร็วนั้น ขึ้นอยู่กับว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของก๊าซเรือนกระจกและอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเป็นอย่างไร

ก่อนหน้านี้การเดินเรือผ่านเส้นทางทะเลเหนือจะสามารถทำได้เพียงปีละ 4 เดือนในช่วงฤดูร้อนไปจนถึงต้นฤดูใบไม้ร่วง โดยจะต้องใช้เรือตัดน้ำแข็งนำทางเท่านั้น ทำให้บริษัทขนส่งต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง แม้จะเป็นเส้นทางที่สั้นและรวดเร็วกว่าการเดินเรือผ่านคลองสุเอซถึง 30%

แต่ภาวะโลกร้อนซึ่งทำให้อุณหภูมิในช่วงฤดูร้อนสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส กำลังทำให้ข้อจำกัดนี้หมดไป โดยในปี 2016 สถาบันบริหารธุรกิจโคเปนเฮเกน (Copenhagen Business School) ชี้ว่า การใช้เส้นทางเดินเรือผ่านทะเลเหนือจะเริ่มคุ้มทุนประมาณปี 2040 หากน้ำแข็งยังละลายต่อเนื่องด้วยอัตราความเร็วในปัจจุบัน

เมื่อปี 2017 เรือบรรทุกก๊าซธรรมชาติเหลว "คริสทอฟ เดอ มาร์เจอรี" (Christophe de Margerie) ของรัสเซีย สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ โดยสามารถใช้เส้นทางทะเลเหนือเดินทางจากพื้นที่แถบขั้วโลกมายังภูมิภาคเอเชียได้ โดยที่ไม่ต้องใช้เรือตัดน้ำแข็งแล่นนำเป็นครั้งแรกของโลก

อย่างไรก็ตามบรรดานักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเตือนว่า การเดินเรือในน่านน้ำดังกล่าวยังคงมีความเสี่ยงสูงที่จะชนกับภูเขาน้ำแข็ง ซึ่งอาจทำให้มีการรั่วไหลของน้ำมัน รวมทั้งไอเสียจากเครื่องยนต์เรือที่แล่นผ่านจำนวนมากขึ้น อาจไปปนเปื้อนในหิมะและน้ำแข็งของเขตอาร์กติก จนส่งผลให้แผ่นน้ำแข็งขั้วโลกละลายเร็วยิ่งขึ้นได้


Comments


ดาวน์โหลด (1).png

เพื่อให้ทุกท่านสามารถติดตามประเด็นวิเคราะห์เจาะลึกผ่านทาง CLOSE-UP THAILAND เชิญเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @closeupthailand

bottom of page