การเงิน-การคลัง
นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง และนายพิสิทธิ์ พัวพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนมีนาคม 2565 จากการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดจากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค พบว่า “ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค เดือนมีนาคม 2565 ยังสะท้อนความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคที่จะปรับตัวดีขึ้นในอนาคต โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก”
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ที่ระดับ 67.8 แม้ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าแต่ยังแสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ดีขึ้น โดยเป็นความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภาคเกษตรในอนาคตที่ดีขึ้น จากเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวพืชเศรษฐกิจสำคัญ เช่น มันสำปะหลัง และข้าว เป็นต้น
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกอยู่ที่ระดับ 66.1 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคเกษตร เนื่องจากความต้องการสินค้าเกษตรจากตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น และในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคใต้อยู่ที่ระดับ 63.6 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นโดยเฉพาะในภาคเกษตร เนื่องจากความต้องการสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ ยางพารา และในภาคบริการ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และโครงการทัวร์เที่ยวไทย
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของภาคตะวันตกอยู่ที่ระดับ 62.7 แสดงถึงความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่ยังดีขึ้น โดยเป็นความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นในภาคเกษตร เนื่องจากจะเข้าสู่ฤดูเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น อ้อยและข้าว เป็นต้น สำหรับความเชื่อมั่นในภาคการลงทุนที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนือปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 58.3 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ยังดีขึ้นในภาคการลงทุน เนื่องจากสถานการณ์การท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการภาคบริการมีการลงทุนขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น และในภาคบริการ จากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลางอยู่ที่ระดับ 56.1 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในภาคเกษตร เนื่องจากคาดว่ามีปริมาณน้ำที่เพียงพอต่อการเพาะปลูก และในภาคการจ้างงาน จากการที่หลายธุรกิจกลับมาจ้างงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่คาดว่าจะดีขึ้น สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจของ กทม. และปริมณฑลอยู่ที่ระดับ 53.3 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อสินค้าอุตสาหกรรมในประเทศเพิ่มขึ้น และในภาคบริการ เนื่องจากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และการเปิดรับนักท่องเที่ยวรูปแบบ Test & Go ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
Comments