การเงิน-การคลัง
สคร.เผยตัวเลขจัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดินสะสม ณ สิ้นไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2565 จำนวน 66,372 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 46 ของเป้าหมายทั้งปี”
นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ณ สิ้นไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2565 (1 ตุลาคม 2564 - 31 มีนาคม 2565) สคร. จัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดิน จากรัฐวิสาหกิจและกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 50 (กิจการฯ) รวมทั้งสิ้นจำนวน 66,372 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการสะสมจำนวน 8,521 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 46 ของเป้าหมายการจัดเก็บในปีงบประมาณ 2565 จำนวน 142,800 ล้านบาท โดยเงินนำส่งรายได้แผ่นดินส่วนใหญ่มาจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และธนาคารออมสิน โดยรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้แผ่นดินสะสมสูงสุด 10 อันดับแรก ณ สิ้นไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2565 มีดังนี้
ลำดับที่ รัฐวิสาหกิจ เงินนำส่งรายได้แผ่นดิน 1. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล 23,644 ล้านบาท 2 .บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 17,519 ล้านบาท 3 .การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 6,419 ล้านบาท 4 .ธนาคารออมสิน 5,313 ล้านบาท 5 .การท่าเรือแห่งประเทศไทย 2,610 ล้านบาท 6 .การไฟฟ้านครหลวง 2,587 ล้านบาท 7 .ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 2,374 ล้านบาท 8 .การทางพิเศษแห่งประเทศไทย 1,400 ล้านบาท 9 .การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 1,345 ล้านบาท 10.การประปาส่วนภูมิภาค 746 ล้านบาท 11.อื่นๆ และกิจการฯ 2,415 ล้านบาท รวม 66,372 ล้านบาท
หมายเหตุ : ข้อมูลเงินนำส่งรายได้แผ่นดินของรัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลัง โดย สคร. จัดเก็บ ไม่รวมเงินนำส่งรัฐประเภทอื่น เช่น ภาษีหรือค่าธรรมเนียมอื่นๆ
สำหรับในปีงบประมาณ 2565 จะเป็นการจัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจากผลประกอบการในปี 2564 ของรัฐวิสาหกิจ จึงมีความเป็นไปได้ที่ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 ของรัฐวิสาหกิจอาจยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด - 19 ในระลอกที่ผ่านมา ซึ่ง สคร. จะได้มีการติดตามผลการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ชิด โดยจะพิจารณาประกอบกับมาตรการของภาครัฐที่รัฐวิสาหกิจจะต้องเข้าไปดำเนินการเพื่อช่วยเหลือประชาชนและการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้การกำกับติดตามการนำส่งเงินรายได้แผ่นดินของรัฐวิสาหกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างเสถียรภาพทางการคลังได้อย่างยั่งยืน
Comments