top of page

หนุนเศรษฐกิจสุขภาพ!!!ด้วยการต่อยอดศักยภาพ สู่Medical & Wellness Hub ผ่านการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ยกระดับภูมิปัญญาไทยสู่สากล

โดย สธ. หนุนยกระดับ “สมุนไพรไทย-นวดไทย” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

.รัฐบาล โดย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจสุขภาพและบริการทางการแพทย์ โดยต่อยอดธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการแพทย์แผนไทยที่เป็นจุดแข็ง เพื่อรองรับความต้องการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น พร้อมวางนโยบายสำคัญ ปี 2568 “ยกระดับการสาธารณสุขไทย สุขภาพแข็งแรงทุกวัย เศรษฐกิจสุขภาพไทยมั่นคง” เพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจสุขภาพสู่ Medical & Wellness Hub เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตของธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ

.

พร้อมสั่งการกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เร่งส่งเสริมการใช้สมุนไพรในระบบบริการสุขภาพ รวมทั้งสนับสนุนการนวดไทย ผ่าน 3 โครงการสำคัญ ได้แก่ โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพสู่ชุดของขวัญที่ระลึกจากประเทศไทย โครงการต่อยอดอุทยานเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และโครงการเพิ่มพูนทักษะ อสม.ดูแลสุขภาพด้วยการนวดไทยและการแพทย์ทางเลือก       


 เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม2567 ที่ผ่านมา ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะที่ปรึกษาฯ และคณะผู้บริหาร ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โดยมี นพ.สมฤกษ์  จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และคณะ ให้การต้อนรับ


          นายเดชอิศม์ กล่าวว่า 1 ในนโยบายรัฐบาล ภายใต้การนำของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี คือ การพัฒนาเศรษฐกิจสุขภาพและบริการทางการแพทย์ โดยต่อยอดธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการแพทย์แผนไทยที่เป็นจุดแข็งเพื่อรองรับความต้องการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนสนับสนุนการยกระดับสมุนไพรและผลิตภัณฑ์สมุนไพร รวมถึงการใช้กัญชาทางการแพทย์สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้รับมาเป็นนโยบายสำคัญ ปี 2568 “ยกระดับการสาธารณสุขไทย สุขภาพแข็งแรงทุกวัย เศรษฐกิจสุขภาพไทยมั่นคง” ด้วยการเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจสุขภาพสู่ Medical & Wellness Hub ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ยกระดับภูมิปัญญาไทย ส่งเสริมการใช้การแพทย์แผนไทยและสมุนไพรเพื่อการแพทย์  เพิ่มโอกาสการเติบโตของธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ


          นายเดชอิศม์ กล่าวต่อว่า กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายนี้ให้บรรลุเป้าหมายร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกรมฯ มีการดำเนินงานตอบรับนโยบายเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ตนพร้อมสนับสนุนการยกระดับสมุนไพรไทย ส่งเสริมการใช้สมุนไพรในระบบบริการสุขภาพ ซึ่งปัจจุบันยังมีการเบิกจ่ายยาสมุนไพรในระบบบริการสุขภาพเพียง 2.21% เท่านั้น รวมทั้งสนับสนุนการนวดไทย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และขอให้เร่งดำเนินการ 3 โครงการสำคัญให้เห็นเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ได้แก่ 1.โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรคุณภาพสู่ชุดของขวัญที่ระลึกจากประเทศไทย (Gift of Thailand from Premium Herbal Product) เน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ได้รับความนิยม คือ น้ำมันนวด ลูกประคบ ยาดม ยาหม่อง และน้ำมันหอมระเหย นำไปจัดแสดง Road Show ที่สาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศญี่ปุ่น ภายใต้ความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ 97 แห่ง กระทรวงพาณิชย์ สมาคมการค้าส่งเสริมหัตถกรรมไทย คาดว่าจะสร้างมูลค่าจากผลิตภัณฑ์ได้กว่า 480 ล้านบาท


          2.โครงการต่อยอดอุทยานเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ  กรมการแพทย์แผนไทยฯ ร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเครือข่าย ต่อยอดแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศในพื้นที่อุทยานที่มีน้ำพุร้อน เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเพื่อส่งเสริมให้คนไทยหันมาใช้สมุนไพรไทยมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นอีกด้วย และ 3.โครงการเพิ่มพูนทักษะด้านการนวดไทยและการแพทย์ทางเลือกในอาสาสมัครประจำหมู่บ้าน 10,000 คน ทั้งหลักสูตรนวดฝ่าเท้า 60 ชั่วโมง หลักสูตรนวดไทยเพื่อสุขภาพ 150 ชั่วโมง และหลักสูตรดูแลสุขภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน 8 ชั่วโมง เพื่อส่งเสริมสุขภาพ/บรรเทาอาการเบื้องต้นให้กับตนเอง คนในครอบครัว และคนในชุมชน ภายใต้ความร่วมมือกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ผู้นำ อสม.ท้องถิ่น สำนักอนามัย กทม. สถาบันการศึกษา/สถานฝึกอบรมที่ผ่านการรับรอง 412 แห่ง และคลินิกชุมชนอบอุ่น

Comments


ดาวน์โหลด (1).png

เพื่อให้ทุกท่านสามารถติดตามประเด็นวิเคราะห์เจาะลึกผ่านทาง CLOSE-UP THAILAND เชิญเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @closeupthailand

bottom of page