top of page

เซเว่น-อีเลฟเว่นกว่า 14,500 สาขาทั่วประเทศพร้อมรับชำระเงินด้วยอี-วอลเล็ทจากต่างประเทศผ่านแอป อาลีเพย์พลัสยกระดับประสบการณ์การใช้จ่ายแบบไร้เงินสดอย่างแท้จริง



 

  • อาลีเพย์พลัสเพิ่ม 9 อี-วอลเล็ทจากต่างประเทศ รวมเป็น 13 เพื่ออำนวยความสะดวกให้การชำระเงินแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยให้ครอบคลุมขึ้นกว่าเดิม

  • จากความร่วมมือกับ เคาน์เตอร์ เซอร์วิส แอปพาร์ทเนอร์ของอาลีเพย์พลัสสามารถใช้ชำระเงินค่าสินค้าและบริการที่ เซเว่น-อีเลฟเว่น ทั่วประเทศ ต่อยอดการใช้งานอาลีเพย์ (จากจีนแผ่นดินใหญ่) ที่สามารถใช้ชำระเงินได้ตั้งแต่ปี 2016

  • เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีน อาลีเพย์พลัส และเซเว่น-อีเลฟเว่นจัดแคมเปญพิเศษที่เซเว่น-อีเลฟเว่น

 

เซเว่น-อีเลฟเว่น (7-Eleven) เพิ่มตัวเลือกช่องทางการชำระเงินผ่าน 13 อี-วอลเล็ทจากต่างประเทศผ่านอาลีเพย์พลัส (Alipay+) ผู้ให้บริการด้านธุรกรรมการชำระเงินแบบดิจิทัลระหว่างประเทศ และแพลตฟอร์มการตลาด บริหารงานโดย               แอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อเพิ่มความสะดวกในการชำระค่าสินค้าและบริการแก่นักท่องเที่ยวที่               เซเว่น-อีเลฟเว่นในกว่า 14,500 สาขา ทั่วประเทศ โดยการให้บริการดังกล่าวคือส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นที่จะอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนโดยมี เคาน์เตอร์ เซอร์วิส (Counter Service) เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อการบริการระหว่าง อาลีเพย์พลัส และเซเว่น-อีเลฟเว่น เข้าด้วยกัน

 

เมื่อเร็ว ๆ นี้ อาลีเพย์พลัส ได้ขยายเครือข่ายพันธมิตรผู้ให้บริการอี-วอลเล็ทต่างประเทศเพื่อรองรับการชำระเงินค่าสินค้าที่เซเว่น-อีเลฟเว่นในประเทศไทย โดยอี-วอลเล็ทที่รองรับการชำระเงินได้แก่ MyPB by Public Bank Berhad จากมาเลเซีย, Naver Pay และ Toss Pay จากเกาหลีใต้, Changi Pay และ OCBC Digital จากสิงคโปร์ , GCash จากฟิลิปปินส์, Hipay จากมองโกเลีย , MPay จากเขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน, และ Tinaba จากอิตาลี

 

อี-วอลเล็ท อาลีเพย์ (Alipay) จากจีนแผ่นดินใหญ่สามารถใช้ชำระค่าสินค้าและบริการในประเทศไทยได้มาตั้งแต่ปี 2015 ในขณะที่ AlipayHK จากเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน, Kakao Pay จากเกาหลีใต้ และ Touch ‘n Go eWallet จากมาเลเชีย เริ่มใช้บริการได้ตั้งแต่ปี 2023 ที่ผ่านมา

 

เทศกาลตรุษจีนซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศมากกว่า 1 ล้านคนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และคาดว่าจะสร้างรายได้ให้แก่ประเทศกว่า 28.4 พันล้านบาท (หรือราว 800 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่า นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศมากที่สุดในช่วงเทศกาลดังกล่าวคือนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ และนักท่องเที่ยวจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกง[1]

 

เซเว่น-อีเลฟเว่นมีสาขากว่า 14,500 แห่งครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศไทย โดยเซเว่น-อีเลฟเว่นไม่เพียงเป็นร้านสะดวกซื้อที่เหมือนเป็นสวรรค์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในการรับประทาน แต่ยังเป็นร้านค้าที่มีสินค้าครบครันตอบโจทย์ในที่เดียวทั้งสินค้าพื้นฐานเพื่อการอุปโภคและบริโภค ของที่ระลึกและสินค้าพื้นบ้าน สินค้าเพื่อสุขภาพสำหรับคนรักสุขภาพ อาทิ ไข่ต้มพร้อมรับประทาน อกไก่พร้อมรับประทาน หรือเครื่องดื่มโปรตีนเชค เป็นต้น

 

นายวีรเดช อัครผลพานิช รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า “เคาน์เตอร์ เซอร์วิส ระบบเทคโนโลยีการชำระเงินชั้นนำระดับโลกที่เชื่อถือได้ ได้เสริมประสิทธิภาพและขอบเขตการให้บริการช่องทางการชำระเงินแบบดิจิทัลสำหรับการซื้อสินค้าและบริการที่ เซเว่น-อีเลฟเว่น เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของผู้คน โดยให้บริการด้านการเงิน การชำระเงินค่าประกัน ค่าบัตรเข้าชมกีฬาและคอนเสริต ชำระเงินเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวต่าง ๆ และจากกระแสความนิยมในการเดินทางท่องเที่ยวที่กำลังเพิ่มขึ้น เคาน์เตอร์ เซอร์วิส ได้มีการวางระบบเพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยว และพร้อมเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อเพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่เดินทางมาจากทั่วโลกด้วยช่องทางการชำระเงินแบบไร้เงินสดเพื่อมอบความสะดวกสบายให้แก่นักท่องเที่ยว”

 

ปัจจุบัน อาลีเพย์พลัส ให้บริการใน 57 ประเทศ โดยเชื่อมโยงผู้ค้ากว่า 88 ล้านรายทั่วโลกเข้ากับบัญชีผู้ใช้ 1.5 พันล้านบัญชีผ่านอี-วอลเล็ท และแอปชำระเงินชั้นนำกว่า 25 รายการ ในประเทศไทย            อาลีเพย์พลัสเดินหน้าเพิ่มเครือข่ายร้านค้าพันธมิตรอย่างต่อเนื่องโดยปัจจุบันร้านค้าพันธมิตรนั้นครอบคลุมทั้งในห้างสรรพสินค้า และร้านค้าที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว อาทิ ห้างสรรพสินค้าในเครือ เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น, เดอะ มอลล์ กรุ๊ป และร้านค้าแบรนด์ไทยยอดนิยมอย่าง คิงเพาเวอร์   และจิม ทอมสัน

 

นายสิทธิพงษ์ กิตติประภาพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป ด้าน Global Merchant Partnership ประจำประเทศไทย แอนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “ประเทศไทยคือหนึ่งในจุดหมายปลายทางระดับโลกที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจและเรารู้สึกดีใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวผ่านการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล และทำงานร่วมกับร้านค้า รวมถึงพาร์ทเนอร์อย่างกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีน และนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนมาประเทศไทย ผ่านความสะดวกและสร้างประสบการณ์การใช้จ่ายที่ไร้กังวลให้แก่นักท่องเที่ยว ทั้งเพื่อช่วยธุรกิจในประเทศให้สามารถสร้างรายได้ผ่านการเติมโตด้านการท่องเที่ยว

 

และเพื่อเป็นการตอบรับเทศกาลท่องเที่ยวที่กำลังดำเนินอยู่  อาลีเพย์พลัส ร่วมกับ เซเว่น-อีเลฟเว่น ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ใช้งานแอปอาลีเพย์พลัส ด้วยคูปองส่วนลดกว่า 50%

Comments


ดาวน์โหลด (1).png

เพื่อให้ทุกท่านสามารถติดตามประเด็นวิเคราะห์เจาะลึกผ่านทาง CLOSE-UP THAILAND เชิญเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @closeupthailand

bottom of page