top of page

เปิด "ตัวเลข 9 ไฮไลท์BOI" ดึงลงทุนในปี2567 คาดหวัง มาตรการ Long-Term Resident Visa : LTR Visa จะส่งผลบวกต่อการลงทุนตามมา

ปี 2024 เป็นอีกหนึ่งปีที่ บีโอไอ ยืนยันบทบาทการเป็นหน่วยงานให้การส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทย ด้วย 9 ตัวเลขไฮไลต์ที่สะท้อนศักยภาพและความสำเร็จ พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่อนาคตการลงทุนระดับโลก



1) 1.13 ล้านล้านบาท : สถิติมูลค่าการลงทุนที่สูงที่สุดในรอบ 10 ปี

ปี 2024 บีโอไอทำสถิติใหม่ ด้วยมูลค่าขอรับส่งเสริมการลงทุนสูงถึง 1.13 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนความมั่นใจที่นักลงทุนทั่วโลกมีต่อไทยในฐานะศูนย์กลางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค

2) 3,137 โครงการ : ยอดอนุมัติที่มากที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบีโอไอ

จำนวนโครงการสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบีโอไอ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เห็นว่าไทยพร้อมในทุกด้าน ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน พลังงานสะอาด และสิทธิประโยชน์ที่สนับสนุนการเติบโต

3) สิงคโปร์ครองแชมป์ : นักลงทุนด้วยเม็ดเงินลงทุนสูงสุด

สิงคโปร์ ยังคงเป็นประเทศที่มีการลงทุนในไทยสูงสุดด้วยมูลค่า 357,540 ล้านบาท ตามมาด้วย จีน (174,638 ล้านบาท) และฮ่องกง (82,266 ล้านบาท) โดยการลงทุนจากสิงคโปร์ส่วนใหญ่เป็นโครงการของบริษัทแม่จากจีนและสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าไทยเป็นพื้นที่ไร้ความขัดแย้ง (Conflict-free Zone)

4) Data Center มาแรง เงินลงทุนทะลุ 241,000 ล้านบาท ในมือผู้เล่นระดับโลก

ปี 2024 เป็นปีทองของธุรกิจ Data Center และ Cloud Service ด้วยการลงทุนจากยักษ์ใหญ่ เช่น Google, AWS, Alibaba Cloud และ Huawei และอีกหลายบริษัทชั้นนำเลือกไทยเป็นฐานลงทุน สะท้อนความสำคัญของธุรกิจดิจิทัลในเศรษฐกิจยุคใหม่ และศักยภาพไทยในด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในอนาคต

5) 5 อุตสาหกรรมเด่นแห่งอนาคต : ดิจิทัลครองอันดับ 1

1. ดิจิทัล (243,308 ล้านบาท) : ธุรกิจ Data Center และการพัฒนาซอฟต์แวร์

2. อิเล็กทรอนิกส์ (231,710 ล้านบาท) : การผลิต PCB และเซมิคอนดักเตอร์

3. ยานยนต์ (102,366 ล้านบาท) : การผลิต EV และชิ้นส่วนยานยนต์

4. เกษตรและอาหาร (87,646 ล้านบาท) : การแปรรูปอาหาร

5. ปิโตรเคมี (49,061 ล้านบาท) : การผลิตเคมีภัณฑ์และพลาสติกชนิดพิเศษ

6) ปรับเกมเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีและพลังงานสะอาด

การขอรับการส่งเสริมการลงทุนเพื่อผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนหรือขยะ มีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 114,484 ล้านบาท เป็นมูลค่าการลงทุนที่สูงและมีความสำคัญต่อโครงสร้างเศรษฐกิจ แสดงถึงความพร้อมของไทยที่จะรองรับความต้องการด้านพลังงานสะอาดในอนาคต นอกจากนี้ การลงทุนเพื่อยกระดับอุตสาหกรรม Smart & Sustainable Industry ยังเติบโตกว่า 30 % เม็ดเงินลงทุน 35,560 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยเน้นพลังงานสะอาด ระบบอัตโนมัติ และการลดต้นทุนด้านพลังงาน

7) ภาคตะวันออกขึ้นแท่นโซนสุดฮอต เงินลงทุน 573,066 ล้านบาท ในพื้นที่ศักยภาพสูง

พื้นที่ภาคตะวันออกยังคงเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดึงดูดนักลงทุนมากที่สุด (573,066 ล้านบาท) ตามด้วย ภาคกลาง (392,267 ล้านบาท) และภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (71,591 ล้านบาท) พร้อมการกระจายโอกาสสู่ภูมิภาคอื่น

 2.1 แสนตำแหน่ง - 2.6 ล้านล้านบาท : ตัวเลขที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

การลงทุนในปีนี้ไม่ได้แค่สร้างงานกว่า 2.1 แสนตำแหน่ง แต่ยังใช้วัตถุดิบในประเทศมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท และสร้างรายได้จากการส่งออกสูงถึง 2.6 ล้านล้านบาท สะท้อนถึงผลลัพธ์ที่ชัดเจนและยั่งยืนต่อเศรษฐกิจไทย

9) 5 อุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ : ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยใน 3 ปีข้างหน้า

บีโอไอกำหนดยุทธศาสตร์ 5 ปี (2566-2570) โดยเน้น 5 อุตสาหกรรมสำคัญ

• อุตสาหกรรมชีวภาพและเศรษฐกิจสีเขียว: เกษตร อาหาร การแพทย์ และพลังงานสะอาด

• ยานยนต์ไฟฟ้า : ยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน

• อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง : เซมิคอนดักเตอร์และชิ้นส่วนอัจฉริยะ

• ดิจิทัลและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ : เทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัล

• ศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ : ศูนย์กลางธุรกิจและบริการระดับภูมิภาค


อนึ่ง เมื่อวันที่ 13 มกราคม2568 ที่ผ่านมา       คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) เสนอ ดังนี้


                     1. รับทราบรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการ ปัญหา อุปสรรคในการดำเนินการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย (Long-Term Resident Visa : LTR Visa) (มาตรการ LTR Visa)


                     2. เห็นชอบการปรับปรุงคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขของการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ ตามมาตรการ LTR Visa


                     3. เห็นชอบการปรับปรุงมาตรการการตรวจลงตราเพื่อคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ (SMART Visa) (มาตรการ SMART Visa) เพื่อให้คงเหลือเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น (SMART - S) กรณีจัดตั้งวิสาหกิจเริ่มต้นในประเทศไทยแล้ว


                     4. มอบหมายให้ สกท. กระทรวงมหาดไทย (มท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับปรุงแก้ไขประกาศ คำสั่ง หรือระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ตามมาตรการ LTR Visa และมาตรการ SMART Visa ต่อไป


                     5. มอบหมายให้กระทรวงแรงงาน (รง.) พิจารณาเร่งรัดการดำเนินการปรับปรุงระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการยกเลิกเงื่อนไขทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาทต่อการจ้างงานชาวต่างชาติผู้ถือ LTR Visa ต่อไป


                     6. มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์  วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พิจารณาดำเนินนโยบายและมาตรการระดับประเทศเพื่อพัฒนาทักษะด้านภาษาต่างประเทศให้แก่บุคลากรในประเทศ

                    สาระสำคัญของเรื่อง

                     1. เรื่องนี้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) นำเสนอ คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย (มาตรการ LTR Visa) และปัญหา อุปสรรค ในการดำเนินการมาตรการดังกล่าว รวมทั้งพิจารณาให้ความเห็นชอบการปรับปรุงคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขของการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ ตามมาตรการ LTR Visa และ Smart Visa ซึ่งคณะกรรมการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย (คสดช.) ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 และครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2567เห็นชอบด้วยแล้ว โดยการขอปรับปรุงคุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขของการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษดังกล่าว มีประเด็นสำคัญ เช่น


    1.2 Smart Visa

                               เนื่องจาก LTR Visa และ Smart Visa  บางประเภทมีกลุ่มเป้าหมายและหลักเกณฑ์ใกล้เคียงกัน สร้างความสับสนให้แก่ชาวต่างชาติ จึงควรมีการยกเลิกประเภท Smart Visa  ที่ซ้ำซ้อนกับ LTR Visa และวีซ่าประเภทอื่น ๆ เนื่องจากขอบเขตประเภทและคุณสมบัติของ  LTR Visa เปิดกว้างและสิทธิประโยชน์ที่เหนือกว่า Smart Visa ดังนั้น คณะกรรมการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย (คสดช.)  จึงเห็นชอบให้ผลักดันให้ LTR Visa เป็นวีซ่าหลักแก่ชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูง โดยเสนอให้พิจารณายกเลิก  Smart Visa โดยให้คงไว้เฉพาะ SMART-S สำหรับผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup)  กรณีจัดตั้งวิสาหกิจเริ่มต้นแล้ว (ประเภท 2 ปี) เพราะยังไม่มีการตรวจลงตราประเภทอื่น ๆ  ที่มีสิทธิประโยชน์ใกล้เคียงกันและมีเงื่อนไขผ่อนคลายเหมาะสมกับลักษณะของผู้ประกอบการธุรกิจ Startup โดยสามารถส่งเสริมระบบนิเวศวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup Ecosystem) ของประเทศได้ต่อไป


                     2. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กระทรวงแรงงาน (รง.) กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)  พิจารณาแล้วเห็นควรให้ความเห็นชอบ/ไม่ขัดข้อง


จากมติคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้เชื่อว่า จะส่งผลบวกต่อการลงทุนในปี2568 ตามมา!!!



Σχόλια


ดาวน์โหลด (1).png

เพื่อให้ทุกท่านสามารถติดตามประเด็นวิเคราะห์เจาะลึกผ่านทาง CLOSE-UP THAILAND เชิญเพิ่มเพื่อนทางไลน์ @closeupthailand

bottom of page