เปิดทีมบริหารระดับสูงฝ่ายข้าราชการประจำของกระทรวงมหาดไทยปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

ภารกิจสุดท้ายอธิบดีกรมการปกครอง

"อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์"

ก่อนรับบทบาทใหม่ ปลัดกระทรวงมหาดไทย

ที่โจทย์สำคัญอยู่ที่ปัญหาประชาชน!!!ที่รออยู่มากมาย

วันที่ 30 ก.ย. 67 เวลาประมาณ 11.50 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง ได้พบกับกลุ่มผู้ชุมนุมจากเครือข่ายสลัม 4 ภาค ประมาณ 150 คน ที่มาปักหลักชุมนุมบริเวณริมถนนอัษฎางค์ หน้ากระทรวงมหาดไทย เพื่อเรียร้องให้หน่วยงานรัฐรแก้ไขปัญหาสิทธิที่อยู่อาศัย และที่ดินทำกินของชุมชนในที่ดินสาธารณะ

นายอนุทิน กล่าวระหว่างการพบผู้ชุมนุมว่า เรื่องปัญหาที่ดินทำกิน ความเดือดร้อนทั้งหลายของประชาชน เป็นเรื่องที่รัฐบาลซึ่งนำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีเจตนารมณ์และความตั้งใจแน่วแน่ที่จะดูแลปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด เดือดร้อนน้อยที่สุด หลังจากได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการแล้ว คิดว่าประเด็นปัญหาที่ผู้ชุมนุมเสนอมาเป็นสิ่งที่แก้ไขได้ และจากการหารือกับทุกฝ่ายทุกคนก็เห็นพ้องต้องกันว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ โดยขอให้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมส่งตัวแทนมาหารือต่อไป

"เมื่อท่านมาถึงหน้าบ้านแล้วผมก็มาพบ ผมเป็นห่วง ขอให้ท่านส่งตัวแทนมาคุยกันแล้วท่านก็กลับบ้าน ให้เราได้แก้ไขปัญหาให้พี่น้องมีความพอใจและเป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมาย อยู่ตรงนี้อาหารการกิน ห้องน้ำก็ไม่สะดวก ไม่สบายเจ็บป่วยขึ้นมาจะเป็นสิ่งไม่ดี เราจะรับข้อเสนอรับฟังความเดือดร้อนและจะหาทางแก้ไขด้วยกัน" นายอนฺุทิน กล่าว

ทั้งนี้ หลังจากพบหารือกับผู้ชุมนุมประมาณ 15 นาที นายอนุทิน ได้ดำเนินการตามที่ผู้ชุมนุมขอให้เปิดห้องประชุมที่กระทรวงฯ ให้ผู้แทนของผู้ชุมมาหารือถึงข้อเสนอต่างๆ กับผู้แทนกระทรวงมหาดไทยเพื่อนำไปสู่การหาทางออกของปัญหาที่เป็นประโยชน์กับทั้งประชาชนภายใต้กรอบของกฎหมาย

จากนั้นเวลา 13.00 น. นายอนุทิน ได้นั่งเป็นประธานการหาระหว่างผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยกับตัวแทนผู้ชุมนุม โดยได้รับฟังการสะท้อนปัญหาในประเด็นต่างๆ ที่ตัวแทนผู้ชุมนุมต้องการให้กระทรวงมหาดไทยให้ความช่วยเหลือ ซึ่งนายอนุทิน เน้นย้ำว่า ขอให้เชื่อมั่นว่าอะไรที่เป็นปัญหา หรือทำแล้วเป็นประโยชน์กับประชาชนโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย เกษตรกรผู้ทำไร่ ทำนา รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่มีทางออกอื่นนอกจากการช่วยประชาชนแก้ไข

แต่ต้องอยู่บนหลักการที่ไม่ขัดกับกฎหมาย ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ หากไม่เชื่อกันตรงนี้มันจะคุยกันลำบาก โดยหากประเด็นใดที่อยู่ในกฎระเบียบของกระทรวงมหาดไทย เช่น เป็นกรณีที่ระเบียบเก่า เป็นอุปสรรคและสามารถปรับปรุงแก้ไขได้โดยอำนาจของหน่วยงานกระทรวงมหาดไทยและอยู่ภายใต้กฎหมายก็จะให้เร่งดำเนินการต่อไป

"หลักมีอยู่ว่าสิ่งที่จะรับฟังหรือดำเนินการให้ท่าน ออกมาในรูปผลลัพธ์อะไรก็แล้วแต่ สิ่งแรกต้องไม่ขัดกฎหมายหรือขัดรัฐธรรมนูญ ขัดนี้ทำไม่ได้ ไม่งั้นทำไปก็ฟ้องร้องเพิกถอน อยากให้พวกเรามาหาทางออกกัน ให้เราเริ่มต้นด้วยความเข้าใจกัน ผมรู้ว่าเรื่องของท่านค้างคามาหลายปี แก้ไขได้บ้างไม่ได้บ้าง เรามาหาทางแก้ไขมาหาวิธีดำเนินการ ซึ่งท่านมาในจังหวะดีตั้งแต่วันพรุ่งนี้ท่านอรรษิษฐ์ จะทำหน้าที่ปลัดกระทรวงวันแรกท่านเข้าใจเจตนารมณ์ของผมดี อะไรที่เกี่ยวข้องกับผู้ว่าฯ ท่านปลัดจะดำเนินการต่อไป" นายอนุทิน กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า จากการหารือทางกระทรวงมหาดไทยได้รับในหลัการที่จะมีการตั้งคณะกรรมการระหว่างตัวแทนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือการแก้ไขปัญหาในมิติต่างๆ โดยนายอนุทิน นั่งเป็นประธานและมอบหมายนายทรงศักดิ์ ติดตามความคืบหน้า โดยจะหารือนัดแรกของระดับผู้ปฏิบัติงานในวันที่ 10 ต.ค. 67 จากนั้นจะนำผลนำเสนอเพื่อการตัดสินใจทางนโยบายต่อนายอนุทินต่อไป

หลังการประชุมเสร็จสิ้นเวลาประมาณ 14.00 น. นายอนุทิน ได้ไปพบกับผู้ชุมนุมอีกครั้งพร้อมกล่าวถึงผลสรุปการหารือทั้งหมด ซึ่งผู้ชุมนุมต่างแสดงความพอใจและแยกย้ายเดินทางกลับภูมิลำเนาต่อไป