เอ็กโก กรุ๊ป เผยกำไรสุทธิไตรมาส 1/2566 จำนวน 2,022 ล้านบาท รุกลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

พลังงาน

บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2566 มีรายได้รวม 15,125 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 2,022 ล้านบาท ปัจจัยสนับสนุนหลักจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าเคซอนและซานบัวนาเวนทูรา ฟิลิปปินส์ เดินหน้าเตรียมพร้อมยื่นประมูลโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนส่วนขยายที่จะเปิดรอบเพิ่มเติมของภาครัฐ และแสวงหาโอกาสลงทุนธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานที่เกี่ยวเนื่องในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ยุคเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า เอ็กโก กรุ๊ป หาโอกาสในการสร้างความเติบโตในธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานที่เกี่ยวเนื่องอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางสถานการณ์ความผันผวนของต้นทุนเชื้อเพลิงและสภาพเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน ด้วยความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการพอร์ตโฟลิโอโรงไฟฟ้าและต้นทุนเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนความสามารถในการบริหารความเสี่ยงด้านการลงทุนอย่างเหมาะสม ในไตรมาสนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ประสบความสำเร็จในการปิดดีลโรงไฟฟ้า “ไรเซ็ก” กำลังผลิต 609 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นการต่อยอดความสำเร็จของเอ็กโก กรุ๊ป ในตลาดไฟฟ้าระดับโลก ต่อเนื่องจากโรงไฟฟ้า “ลินเดน โคเจน” และโครงการ “เอเพ็กซ์” ปูทางสู่ความร่วมมือทางธุรกิจ ซึ่งจะนำไปสู่โอกาสในการลงทุนเพิ่มเติมในโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติควบคู่กับโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่มีคุณภาพสูงในตลาดไฟฟ้าของประเทศสหรัฐอเมริกาในอนาคต

สำหรับผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2566 เอ็กโก กรุ๊ป มีรายได้รวม 15,125 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 และมีกำไรสุทธิ 2,022 ล้านบาท ลดลง 51% หรือ 2,093 ล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักจากโรงไฟฟ้าพาจู อีเอส ในเกาหลีใต้ โรงไฟฟ้าไซยะบุรีและโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 2 ใน สปป.ลาว มีปริมาณการขายไฟฟ้าลดลง อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าเคซอนและซานบัวนาเวนทูรา ในฟิลิปปินส์

ปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป มีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้า “เอ็กโก โคเจนเนอเรชั่น ส่วนขยาย” จังหวัดระยอง กำลังผลิต 74 เมกะวัตต์ มีความก้าวหน้าในการก่อสร้างประมาณ 60% คาดว่าจะแล้วเสร็จและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 และโครงการโรงไฟฟ้า “หยุนหลิน” ในไต้หวัน กำลังผลิต 640 เมกะวัตต์ จนถึงไตรมาสที่ 1/2566 สามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้แล้วจำนวน 16 ต้น กำลังผลิต 128 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ในฐานะหนึ่งในผู้ถือหุ้นได้เร่งรัดติดตามความก้าวหน้าของโครงการอย่างใกล้ชิด และร่วมปรับแผนการก่อสร้าง เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายในปี 2567

สำหรับการขยายธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในประเทศ เอ็กโก กรุ๊ป เตรียมพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนแบบ FiT 3,600 เมกะวัตต์ ส่วนขยายที่จะเปิดรอบเพิ่มเติม ขณะเดียวกันได้ร่วมมือกับพันธมิตรศึกษาและพัฒนาการใช้พลังงานทางเลือก เช่น เชื้อเพลิงไฮโดรเจน และเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (CCUS) รวมถึงขยายการลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรมพลังงานใหม่ ๆ ผ่านบริษัท “อินโนพาวเวอร์” สำหรับในต่างประเทศ เอ็กโก กรุ๊ป มุ่งต่อยอดและแสวงหาโอกาสลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนและโรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่พลังงานสะอาด

“ด้วยรากฐานทางธุรกิจที่มั่นคง เอ็กโก กรุ๊ป ได้ก้าวสู่การดำเนินงานปีที่ 31 อย่างแข็งแกร่งเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ภายใต้แนวคิดการดำเนินธุรกิจ “Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลังงานสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ควบคู่ไปกับการสร้างมูลค่าเพิ่มและดูแลผู้มีส่วนได้เสียอย่างยั่งยืน” นายเทพรัตน์ กล่าวสรุป

EGCO Group Shows THB2,022 Million Net Profit in Q1/23, More domestic and overseas investment planned to support energy transition

Electricity Generating Public Company Limited or EGCO Group announced 15,125 million Baht total revenue and 2,022 million Baht net profit for the first quarter of 2023. The strong performance is mainly contributed by the increasing incomes from Quezon and San Buenaventura power plants in the Philippines. To support energy transition, EGCO Group is getting ready to participate in the Thai government’s new auction for renewable power under the feed-in-tariff (FiT) scheme and make more investment in power and energy-related businesses in overseas markets.

Mr. Thepparat Theppitak, EGCO Group’s President, said that EGCO Group continued to maintain growth in power and energy-related business despite the volatile fuel price and slow global economy that began in 2022. Key factors of such success are EGCO Group’s expertise in power plant portfolio management, efficient fuel cost management, appropriate management of risks related to investment. In addition, EGCO Group has closed deal with RISEC power plant with 609 MW capacity in this quarter. This will strengthen EGCO Group’s success in the global energy market, following the achievements in Linden Cogeneration power plant and APEX power project. EGCO Group will also grow its business cooperation with foreign partners in order to capture the opportunity to expand its investment in other high quality natural gas-fired and renewable projects in the US market in the coming years.

In Q1/2023, EGCO Group posted 15,125 million Baht total revenue, an increase of 13% compared to the same period in 2022. Net profit for the first quarter was 2,022 million Baht, which was 2,093 million Baht or 51% lower than Q1/2022. This significant reduction came from the decrease of electricity sale volumes of Paju ES in South Korea and Xayaburi and Nam Thuen 2 hydropower plants in Laos. However, the positive factor contributing to growth was the increasing incomes of Quezon and San Buenaventura power plants in the Philippines.

EGCO Group currently has two projects under construction. The 74-MW EGCO Cogeneration SPP Replacement Project in Rayong province has already been 60% completed, and is scheduled for completion and commercial operation commencement in the first quarter of 2024. The 640-MW Yunlin Offshore Wind Farm in Taiwan has transmitted 128 MW from 16 wind turbines to the grid in the first quarter this year. EGCO Group, as a shareholder, has accelerated the project progress and worked closely with the partners in reviewing construction plan to ensure that the project will be completed within 2024 as scheduled.

Considering power and energy-related business expansion to support energy transition in Thailand, EGCO Group is getting ready to participate in the second auction for a 3,600-MW renewable power under the FiT scheme. The company also worked with its partners to study and utilize alternative energy, such as hydrogen fuel and Carbon Capture, Utilization and Storage (CCUS) technology, and to invest more in the latest technologies and energy innovations through Innopower Company Limited. In other countries, EGCO Group will seek opportunities to invest in renewable energy and natural gas-fired power projects, which are important to support energy transition.

“Thanks to our strong foothold, EGCO Group celebrated its 31st anniversary on 12 May 2023 under the “Cleaner, Smarter and Stronger to Drive Sustainable Growth” business direction. We are committed to playing a part in creating energy security and driving the entire industry towards low-carbon society. Meanwhile, we will create added value and take good care of all stakeholders in sustainable manner,” said Mr. Thepparat.